วันนี้ (31 พ.ค.2568) เกิดเหตุวางเพลิงบนขบวนรถไฟใต้ดินสาย 5 ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างสถานียออีนารุ (Yeouinaru) และสถานีมาโพ (Mapo) เมื่อเวลา 08:47 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ผู้โดยสารกว่า 400 คนต้องอพยพผ่านอุโมงค์รถไฟใต้ดินเพื่อความปลอดภัย ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นชายวัย 60-70 ปี ได้ที่สถานียออีนารุเมื่อเวลา 09:45 น. และกำลังสอบสวนเพื่อหาแรงจูงใจของการก่อเหตุ
จากรายงานของสำนักข่าวยอนฮัปและตำรวจกรุงโซล ผู้ต้องสงสัยขึ้นรถไฟพร้อมถังน้ำมันและไฟแช็ก ก่อนจุดไฟเผาเสื้อผ้าบางส่วนภายในขบวนรถ เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดควันหนาทั่วตู้โดยสาร ผู้โดยสารและพนักงานขับรถ ใช้ถังดับเพลิงควบคุมสถานการณ์ในเบื้องต้น ก่อนที่หน่วยดับเพลิงจะเข้ามาดับไฟได้สำเร็จเมื่อเวลา 10:24 น.
มีผู้โดยสาร 21 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น สูดควันและข้อเท้าแพลง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
เหตุการณ์นี้ทำให้การให้บริการรถไฟใต้ดินสาย 5 ระหว่างสถานียออีโด (Yeouido) และเอโอแก (Aeogae) ต้องหยุดชะงักชั่วคราวตามประกาศของ Seoul Metro อย่างไรก็ตาม หลังควบคุมสถานการณ์ได้ บริการรถไฟกลับมาดำเนินการปกติเมื่อเวลา 10:06 น.
ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ที่สถานียออีนารุ หลังพบว่าผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนี ข้อมูลจากพยานระบุว่า ผู้ต้องสงสัยใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาวัตถุไวไฟที่นำมาด้วย ขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำเพื่อหาแรงจูงใจ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาส่วนตัวหรือสภาพจิตใจ และจะดำเนินการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น วิเคราะห์วัตถุไวไฟและร่องรอยในตู้โดยสาร
ล่าสุด ตามรายงานของ The Korea Herald และ Chosun Ilbo ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถไฟตู้ที่เกิดเหตุไม่ได้รับความเสียหายรุนแรง และสามารถกลับมาใช้งานได้หลังการตรวจสอบความปลอดภัย Seoul Metro ยืนยันว่ารถไฟสาย 5 กลับมาวิ่งตามปกติทั้งเส้นทาง และได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานีและขบวนรถ เช่น การตรวจสัมภาระต้องสงสัยและเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน
นอกจากนี้ ทางการโซลกำลังพิจารณาติดตั้งระบบตรวจจับควันและสปริงเกลอร์ในตู้โดยสารเพิ่มเติม เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยในอนาคต ขณะที่ประชาชนในโซลและผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างแสดงความหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำ และเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลการสอบสวนอย่างโปร่งใส
เหตุการณ์นี้ชวนให้นึกถึงโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถไฟใต้ดินที่เมืองแทกูในปี 2546 ซึ่งชายวัย 56 ปีชื่อ คิม แด-ฮัน วางเพลิงด้วยน้ำมันเบนซิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 192 คน และบาดเจ็บ 151 คน สาเหตุมาจากความไม่พอใจด้านการรักษาพยาบาลและภาวะซึมเศร้า
เหตุการณ์ในครั้งนั้นนำไปสู่การปรับปรุงระบบความปลอดภัยในรถไฟใต้ดินของเกาหลีใต้ เช่น การติดตั้งวัสดุทนไฟในตู้โดยสารและระบบฉุกเฉินที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ล่าสุดที่โซลแสดงให้เห็นว่าความท้าทายด้านความปลอดภัยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับการก่อเหตุโดยเจตนา

แหล่งที่มา : The Korea Herald, Yonhap News Agency, Chosun Ilbo
อ่านข่าวเพิ่ม :
บิ๊กต่ายนำทีม! นั่ง ฮ.ตำรวจหลังยกเลิกแบน บินทองผาภูมิไร้กังวล
สรุป! กองทัพบกยังไม่ปิดด่านกัมพูชา โฆษก ทบ.ระบุเป็นแผนระดับพื้นที่เพื่อความมั่นคงปลอดภัย