วันที่ 16 มิ.ย.2568 นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าปฏิบัติการกู้ภัยและฟื้นฟูแนวปะการัง โดยทีมยังคงเร่งเดินหน้าปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา "MV AYAR LINN" ประสบเหตุชนและเกยตื้นบนแนวปะการังบริเวณอ่าวจาก ภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบความเสียหายต่อแนวปะการังในบริเวณที่เรือทับค่อนข้างมาก

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
การปฏิบัติภารกิจร่วมกันระหว่างอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช), ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน, ผศ.ดร.ทนงศักดิ์ จันทร์เมธากุล จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และพี่น้องชาวไทยมอแกน ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2568 โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 ชุดหลัก ดังนี้

ชุดที่ 1 ภารกิจกู้เรือขนส่งสินค้า ทีมกู้เรือกำลังดำเนินการใช้ถังน้ำขนาด 200 ลิตร จำนวน 100 ถัง บรรจุน้ำให้เต็มและนำไปผูกติดกับใต้ท้องเรือส่วนท้ายที่จมน้ำ จากนั้นจึงอัดอากาศเข้าไปในถังเพื่อพยุงให้ส่วนท้ายของเรือลอยขึ้น
จากการปฏิบัติภารกิจเบื้องต้นพบว่า ใต้ท้องเรือส่วนท้ายเริ่มมีการเคลื่อนตัวแล้ว และในวันที่ 16 มิ.ย.ได้เพิ่มจำนวนถังน้ำขนาด 200 ลิตร และบอลลูนสำหรับเคลื่อนย้ายวัตถุใต้น้ำ (Lift Bag) เพื่อเร่งดำเนินการให้เรือสามารถเคลื่อนที่ได้

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ชุดที่ 2 ประเมินความเสียหายและซ่อมแซมปะการัง สำหรับการประเมินความเสียหายต่อแนวปะการัง ทีมงานได้ใช้วิธี Photo quadrat เพื่อประเมินพื้นที่เสียหาย โดยลากเส้นเทปจากท้ายเรือตามแนวร่องรอยการเคลื่อนตัวของเรือเป็นระยะทาง 42 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่พบร่องรอยความเสียหายของปะการัง
จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า ปะการังที่เสียหายจากการครูดไถส่วนใหญ่ คือ ปะการังเขากวาง (Acropora spp.) รองลงมาได้แก่ ปะการังผิวยู่ยี่ (Porites rus), ปะการังสีน้ำเงิน (Helioporo sp.) และ ปะการังโขด (Porites luteo)

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
สำหรับพื้นที่ใต้ท้องเรือและบริเวณรอบตัวเรือยังไม่ได้รับการประเมินอย่างละเอียด แต่คาดว่าจะได้รับความเสียหายทั้งหมดจากการกดทับ โดยปะการังส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ คือ ปะการังสีน้ำเงิน ในส่วนของการฟื้นฟูเบื้องต้น ทีมงานได้รวบรวมชิ้นส่วนปะการังที่แตกหัก และพิจารณาเลือกชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ไม่ได้ยึดติดกับโคโลนีเดิมหรือพื้นวัสดุ เพื่อนำไปยึดติดกับตะปูบนพื้นปะการังที่ตายแล้วด้วยสายเคเบิลไทร์ โดยดำเนินการไปแล้วประมาณ 300 ชิ้น
ชิ้นส่วนปะการังเขากวางที่แตกหักบางส่วนพบว่ามีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ปกคลุมรอยแผลและบางชิ้นส่วนเชื่อมติดกับโคโลนีเดิมได้เองตามธรรมชาติ สำหรับชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่แตกหัก คาดว่าจะสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อและฟื้นตัวได้เอง ซึ่งจะต้องมีการติดตามผลในอนาคตต่อไป

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ชุดที่ 3 ทำหน้าที่ เก็บขยะทะเล โดยมีแนวทางการปฏิบัติภารกิจ สำรวจบริเวณโดยรอบตัวเรือเพื่อประเมินประเภทของขยะและจำนวนขยะ ต่อมาได้ทำการเก็บขยะ ประกอบไปด้วยด้วยกระดาษลัง เศษผ้า ยางรถบรรทุก และขยะอื่นๆ
สำหรับการปฏิบัติภารกิจกู้เรือและฟื้นฟูแนวปะการังในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายจากสภาพภูมิประเทศและใต้น้ำ เน้นความพยายามจากเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลให้ได้มากที่สุด

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
อ่านข่าว : กรมอุทยานฯ เรียกค่าเสียหาย 12 ล้าน เรือขนส่งเกยตื้นแนวปะการัง
"ปะการังสีน้ำเงิน" เสียหายหนัก เหตุเรือส่งสินค้าเกยตื้นเกาะสุรินทร์
แท็กที่เกี่ยวข้อง: