วันนี้ (20 มิ.ย.2568) การรวมตัวของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน" หลายคนหน้าคุ้น หน้าเดิม หรือเรียกได้ว่าส่วนใหญ่เคยออกมาเคลื่อนไหว ทั้งในนามของกลุ่มพันธมิตรฯ, กปปส., คปท. และเครือข่ายที่เคยต่อต้านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
แต่ครั้งนี้มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. ซึ่งเคยมีแนวคิดต่างกัน อยู่กลุ่มนี้ด้วย โดยนายจตุพร ระบุว่า ขณะนี้เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่หลังได้ฟังและรับรู้เรื่องคลิปสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็กฮุน เซน คงไม่อาจให้ความไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อได้
ขณะที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ระบุว่าเป็นตัวแทนจากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และบ้านพระอาทิตย์ โดยกล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้ของภาคประชาชนมีจุดยืนร่วมกันคือ ภาคประชาชนต้องการแสดงออกว่า "พอแล้ว" กับผู้นำที่ไม่ยืนเคียงข้างประชาชนและแผ่นดินไทย
ทั้งนี้ กลุ่มรวมพลังแผ่นดินได้นัดหมายชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในช่วงเย็นวันที่ 28 มิ.ย.นี้

ส่วนกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) หลังไปร่วมแสดงเจตนารมน์กับเครือข่าย ได้กลับมาปักหลักที่ข้างทำเนียบรัฐบาล จัดกิจกรรมสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยวิจารณ์นายกฯ พร้อมยืนยันว่าการลาออกของนายกฯ ถือเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในระบอบประชาธิปไตย เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกผู้นำคนใหม่ตามกลไกรัฐธรรมนูญ
ด้านนายเมธา มาสขาว รักษาการเลขาธิการ ครป. ระบุว่า การเจรจาลับระหว่างผู้นำไทยกับอดีตผู้นำกัมพูชาไม่ควรเกิดขึ้นนอกรูปแบบทางการทูต ซึ่งควรเป็นกระบวนการที่มีความโปร่งใส มีหน่วยงานความมั่นคงร่วมรับรู้และตรวจสอบได้ การที่นายกฯ แสดงท่าทีเป็นการส่วนตัวในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า การเผยแพร่คลิปเสียงอาจเป็นความพยายามแทรกแซงกิจการภายในของไทย โดยใช้เทคนิคทางข่าวกรอง เพื่อสร้างแรงกดดันให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ หากเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการแทรกแซงจากต่างชาติ ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงอย่างร้ายแรง
อ่านข่าว
เสียงสะท้อน "คลิปหลุด" กดดันนายกฯ ลาออก-ยุบสภา
พรรคร่วม-ฝ่ายค้าน จี้นายกฯ "ลาออก-ยุบสภา" รับผิดชอบทางการเมือง
สื่อต่างชาติจับตา คลิปเสียงหลุด 2 ผู้นำ ผลักรัฐบาลไทยสู่ขอบเหว