วันนี้ (20 มิ.ย.2568) Khmer Times ความสัมพันธ์อันยาวนานกว่า 30 ปี ระหว่าง 2 ตระกูลผู้ทรงอิทธิพลอย่าง "ฮุน เซน" แห่งกัมพูชา และ "ชินวัตร" แห่งประเทศไทย ได้ถึงจุดแตกหักอย่างน่าตกใจ โดยสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ X แสดงความเสียใจต่อการขาดสะบั้นนี้ ซึ่งเป็นผลจากคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ที่รั่วไหล
ความผูกพันอันบริสุทธิ์ใจกว่า 30 ปี ต้องพังทลายลง เพราะเจ้าหน้าที่กัมพูชาไม่พอใจคำกล่าวที่ดูหมิ่นตนและนายกฯ กัมพูชา ว่าไร้ซึ่งความเป็นมืออาชีพ

ทั้งนี้ สมเด็จ ฮุน เซน ยังโพสต์รูปย้อนรำลึกถึงความใกล้ชิด เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นายกฯ ไทย และสามี ได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำที่บ้านพัก และยังพาทัวร์ห้องนอนของนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ขณะที่ความสัมพันธ์ครอบครัวเผชิญวิกฤต สื่อกัมพูชา Khmer Times ได้โจมตีภาวะผู้นำของนายกฯ ไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อย่างดุเดือด ระบุว่า น.ส.แพทองธารกำลังเผชิญปัญหาหนักในการบริหารจัดการความแตกแยกภายใน ทั้งในคณะรัฐมนตรีและความขัดแย้งกับกองทัพไทย รวมถึงไร้ความสามารถในการควบคุมกลุ่มชาตินิยมสุดโต่ง
แม้รอดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ความตึงเครียดในรัฐบาลยังคุกรุ่น การที่พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. โดยอ้างเหตุผลเรื่องคลิปเสียง ยิ่งตอกย้ำปัญหาภายใน
ในสายตาคนกัมพูชา ความไม่ลงรอยระหว่างรัฐบาลพลเรือนและกองทัพไทยปรากฏชัดเจนจากคลิปเสียง ซึ่งชี้ว่ากองทัพไม่สนับสนุนหรืออาจต่อต้านผู้นำ ทำให้กัมพูชาสับสนว่าใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายในไทย การเจรจาชายแดนจึงหยุดชะงักนานกว่าทศวรรษ

พร้อมยกตัวอย่าง กรณีกองทัพไทยปิดด่านปอยเปตโดยไม่แจ้งกัมพูชา แม้ตกลงปรับกำลังทหาร แต่สมเด็จ ฮุน เซนยังแสดงความหงุดหงิดในคลิปเสียงว่า การปรับกำลังไม่ได้นำไปสู่การยกเลิกการปิดพรมแดนฝ่ายเดียวของไทย สิ่งที่ชัดเจนคือ นายกฯ ไทย ไม่มีอำนาจควบคุมกองทัพ และไทยยังคงปิดพรมแดนฝ่ายเดียว
ทางกัมพูชาตั้งข้อสังเกตว่า นายกฯ ไทย ไม่สามารถควบคุมพันธมิตรในรัฐบาล กองทัพ และกลุ่มชาตินิยมสุดโต่งได้ ทำให้กัมพูชาไม่ทราบว่าจะเจรจากับใครที่เชื่อถือได้เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน ดังนั้นร้อยละ 99.8 ของชาวกัมพูชาจึงสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
อ่านข่าวอื่น :
รู้จัก "ขแมร์ไทมส์" สื่อกัมพูชา กระบอกเสียงรัฐบาลหรือประชาชน ?