พรรคเพื่อไทย แถลงย้ำ เตรียมเสนอสภาผู้แทนราษฎร เลื่อนวาระการพิจารณาร่างกฎหมายการประกอบธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไป 1 เดือน โดยไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
และด้วยเหตุผลที่ว่านี้ ทำให้กระแส "กาสิโน" แลก "นิรโทษกรรม" กลับมาอีกครั้ง สืบเนื่องจากสภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง รวม 4 ฉบับ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้
"นิรโทษกรรม" แลก "กาสิโน" แต่ "แลก" ในที่นี้อาจไม่ได้หมายถึง การยกมือโหวตให้ซะทีเดียวทั้งหมด แต่น่าจะหมายถึงการซื้อใจและซื้อเวลา สำหรับ สส.ในสภาฯ เพื่อให้ตกผลึกร่วมกันในการโหวต "กาสิโน" ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าก็เป็นไปได้ แต่ในสัปดาห์หน้า ขอโหวตรับหลักการ "นิรโทษกรรม" ไปก่อน ด้วยหลักยึดเดียวกันสร้างความปรองดองทางการเมือง
เสนอเลื่อนวาระที่ถูกบรรจุไปแล้ว ตามขัอบังคับการประชุมสภาฯ ต้องเสนอเป็นญัตติ เพื่อขอความเห็นชอบจากสมาชิกด้วยดังนั้นในวันที่ 9 ก.ค.ยังต้องขึ้นอยู่กับสภาฯ ว่าหลังวิปรัฐบาลมอบหมายให้ สส.พรรครัฐบาล เสนอเลื่อนร่างกฎหมายการประกอบธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปแล้ว สภาฯ จะเห็นชอบด้วยหรือไม่ สส.เสียงข้างมากของพรรคฝ่ายรัฐบาลมีพอไหม ถ้าพอ..ก็ได้ และถ้าได้ก็ถกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้ง 4 ฉบับที่ค้างอยู่ได้ทันที
และข้อสังเกตที่ว่า รัฐบาลซื้อใจ สส.ในสภาฯ ด้วย "นิรโทษกรรม" จากพรรคไหนหรือเปล่า และซื้อเวลาเพื่อสร้างการยอมรับใน "กาสิโน" ออกไปอีกหน่อยไหม เผื่ออะไรจะดีขึ้น
ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่ ค้างอยู่ 4 ฉบับ มีทั้งที่เสนอโดยเครือข่ายภาคประชาชน , พรรคก้าวไกล (เดิม) , พรรครวมไทยสร้างชาติ, และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน เนื้อหาทั้ง 4 ฉบับ สะท้อนอุดมการณ์ทางการเมืองและความยึดโยงกับขบวนการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันออกไป หลักๆ คือ ที่นับรวมกับที่ยกเว้นนิรโทษฯ คดีอาญามาตรา 112

ตอนนี้ก็ยังต้องลุ้นว่า ร่างนิรโทษกรรม ฉบับของพรรคเพื่อไทย ที่เคยประกาศว่าต้องมี เพื่อเสนอประกบด้วย จะมีไหม? โดยหลักการที่บอกไว้ จะนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2548 ถึงวันประกาศใช้กฎหมาย และจะไม่นับรวมคดีอาญามาตรา 112 หากแต่ย้ำไปที่คำนิยามที่จะต้องชัด ว่าคดีทางการเมืองคืออะไร?
ส่วนฉบับของภาคประชาชน เสนอตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 ถึง วันใช้กฎหมาย นับรวมทุกคดี ทั้งคดีอาญามาตรา 112 แต่ยกเว้นนิรโทษกรรม ให้เจ้าหน้าที่รัฐ และคดีอาญาเกี่ยวกับการล้มล้างปกครอง

ฉบับของพรรคก้าวไกล (เดิม) หรือปัจจุบันคือพรรคประชาชน จะนิรโทษกรรม ตั้งแต่ 11 ก.พ.2549 ถึงวันใช้กฎหมาย นับรวมทุกคดี และยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐเช่นกัน โดยเฉพาะคดีอาญาต่อชีวิต

สำหรับฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะเรียกชื่อต่างออกไป คือ ร่างฯ สร้างเสริมสังคมสันติสุข ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2548 - 2565 นิรโทษกรรม 20 ฐานความผิด ไม่นับรวมคดีอาญา มาตรา 112 คดีทุจริต และคดีอาญาต่อชีวิต

และแม้จะใช้ชื่อเหมือนกันในส่วนของพรรคครูไทยเพื่อประชาชน แต่ให้นับตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 - 30 พ.ย.2565 และกำหนดนิรโทษกรรม 20 ฐานความผิดเหมือนกัน แต่ยกเว้นคดีอาญา มาตรา 112
ทั้งนี้ ทุกฉบับอ้างถึง คณะกรรมการ 1 ชุด เพื่อพิจารณา-กลั่นกรองการนิรโทษกรรม มีทั้งมาจากภาคประชาชน มาจาก สส. และมาจากกระบวนการยุติธรรม หากรับหลักการจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับ กรรมาธิการฯ ที่จะชี้ขาด เช่นเดียวกันการนิรโทษกรรม ที่จะครอบคลุมคดีอาญา มาตรา 112 แม้จะมีทั้งในแบบที่ "มีเงื่อนไขกับไม่มีเงื่อนไข" ก็ตาม
ถึงตอนนี้ มีความเห็นจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา คือ หากรับหลักการและเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม นั่นคือทางหนึ่ง..ของการสร้างความปรองดองทางการเมือง
ถ้ารับหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้ง 4 ฉบับ ก็พิจารณาประกบกันไป ส่วนจะออกมาแบบไหน-อย่างไร ขึ้นอยู่กับสภาฯ ว่ากันอีกที "วาระ 2 และ 3" และส่งต่อวุฒิสภาอีก แต่จะทันอายุของสภาฯ ชุดนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการขับเคลื่อนร่วมกัน แต่จะทันอายุของ "ครม.แพทองธาร 2" หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย แต่สำคัญตรงที่ว่า ได้ชื่อว่า "ทำแล้ว" (สำเร็จหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) ซื้อใจไหม และซึ่งเวลาการกระทำเป็นคำตอบและอาจเป็นอีกเงื่อนไขในการโหวตร่างกฎหมายกาสิโน ก็เป็นไปได้
อ่านข่าว :
"ภูมิใจไทย" ตั้ง คกก.สรรหาผู้สมัคร สส. เตรียมพร้อมเลือกตั้ง
ภท.ยก 3 ฉากทัศน์การเมือง ถามประเทศไทยจะไปทางไหน
นายกฯ เผยหารือ "มาครง" ยกระดับสู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ย้ำยึดสันติแก้ปัญหากัมพูชา