วันนี้ (30 มิ.ย.2568) ตามเวลาท้องถิ่น BBC รายงาน ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศว่ามีผู้ซื้อแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok แล้ว แอปพลิเคชันที่เคยถูกสั่งแบนในสหรัฐฯ จากข้อกล่าวอ้างที่ว่าอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ในการสัมภาษณ์กับ Fox News ทรัมป์กล่าวว่าเขามี "กลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยมาก" ที่พร้อมจะเข้าซื้อแพลตฟอร์มนี้ โดยแย้มเป็นนัยว่าจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมภายในประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้า
การขาย TikTok ครั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีน แต่ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่า ปธน.สี จิ้นผิง น่าจะดำเนินการให้ ในเดือนนี้ ทรัมป์ได้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายที่สั่งให้บริษัทแม่ ByteDance ต้องขาย TikTok ออกไปเป็นครั้งที่ 3 แล้ว การขยายเวลาล่าสุดนี้กำหนดให้ ByteDance ต้องทำข้อตกลงขายแพลตฟอร์มให้ได้ภายในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ก่อนหน้านี้ เคยมีข้อตกลงที่จะขาย TikTok ให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกัน แต่ดีลดังกล่าวล่มลงไปในเดือนเม.ย. เนื่องจากเกิดความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวกับจีนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของทรัมป์
แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้ซื้อคนปัจจุบันที่ทรัมป์อ้างถึงนั้น เป็นกลุ่มเดียวกับผู้ที่เคยเตรียมพร้อมจะซื้อเมื่อ 3 เดือนก่อนหรือไม่ แต่รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมายบังคับให้ TikTok ต้องขายกิจการไปตั้งแต่เดือน เม.ย.2567 โดย สส. ได้อ้างความกังวลว่าแอปหรือบริษัทแม่ อาจส่งมอบข้อมูลผู้ใช้ชาวสหรัฐฯ ให้กับรัฐบาลจีน ซึ่งทาง TikTok ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทรัมป์เองเคยวิพากษ์วิจารณ์แอปฯ นี้อย่างหนัก ในช่วงวาระแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ปัจจุบันกลับมองว่ามันเป็น ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้จึงสนับสนุนการใช้งาน TikTok อย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ
กฎหมายดังกล่าวมีกำหนดจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. แต่ทรัมป์ได้เลื่อนการบังคับใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผ่านคำสั่งบริหาร ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการล้มล้างอำนาจของ สส. ในรัฐสภา ทาง TikTok เองก็ได้พยายามโต้แย้งในประเด็นด้านรัฐธรรมนูญของกฎหมายนี้ แต่ได้แพ้การอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ ไปแล้ว
อ่านข่าวอื่น :
แท็กที่เกี่ยวข้อง: