วันนี้ (2 ก.ค.2568) นางมนทิรา พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ได้มีดำริให้ปรับปรุงข้อบังคับของสมาคมฯ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมในปัจจุบัน อันเป็นการสะท้อนถึงบทบาทของคู่สมรสของกำลังพลกองทัพอากาศ โดยได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อสมาคมฯ จาก สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ (สม.ทอ.) หรือ Air Force Wives Association (AFWA) เป็น สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ (สค.ทอ.) หรือ Air Force Spouses Association (AFSA) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นไป
สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ (สม.ทอ.) หรือ Air Force Wives Association (AFWA) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2528 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัวของกำลังพลกองทัพอากาศ สนับสนุนกิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์ สาธารณประโยชน์ การศึกษา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกและชุมชนโดยรอบ
ตลอดจนเป็นองค์กรสนับสนุนภารกิจของกองทัพอากาศในมิติต่าง ๆ ด้วยความมุ่งมั่นมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี เพื่อให้การดำเนินการของสมาคมฯ มีความสอดคล้องกับบริบทของสังคมปัจจุบัน และการยอมรับบทบาทของคู่สมรสอย่างรอบด้าน ตลอดจนรองรับต่อระบบการศึกษาที่กองทัพอากาศมีนโยบายเปิดโอกาสให้นายทหารหญิงเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรขั้นสูงและสามารถดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในองค์กรได้ และคู่สมรสของนายทหารหญิงยังสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ได้ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ จึงมีดำริให้ดำเนินการแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฯ และเปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ (สค.ทอ.) หรือ Air Force Spouses Association (AFSA) โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ (สค.ทอ.) ยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการก่อตั้งสมาคม พร้อมปรับบทบาทให้สอดรับกับยุคสมัย โดยจะมุ่งเน้นการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อความต้องการของครอบครัวกำลังพลในทุกมิติ ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ พัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และคุณภาพชีวิตของสมาชิก รวมถึงสนับสนุนกิจการของกองทัพอากาศ
การเปลี่ยนชื่อสมาคมในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญขององค์กร ที่สะท้อนถึงความตระหนักในบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และการก้าวสู่อนาคตด้วยความเข้าใจ และเคารพในบทบาทของ "คู่สมรส" ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวและกองทัพอากาศอย่างยั่งยืน
อ่านข่าว : ไทยเรียกร้องผู้นำกัมพูชายุติการกระทำ ลักษณะแทรกแซงกิจการภายในของไทย
ทบ.แจงย้ายหมุด "ปราสาทตาเมือนธม" ใน Google Map ไม่มีผลทางกฎหมาย