วันนี้ (16 ก.ค.2568) นายไชยชนก ชิดชอบ สส.เขตบุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย สั่งตรวจสอบที่ดินเขากระโดงใน จ.บุรีรัมย์ ว่า พรรคภูมิใจไทยยินดีให้มีการตรวจสอบตามกระบวนการกฎหมายทุกขั้นตอน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ได้ยืนยันจุดยืนนี้อย่างชัดเจนแล้ว
นายไชยชนกแสดงความมั่นใจว่าความจริงจะปรากฏในอนาคตอันใกล้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมระบุว่า ที่ดินพิพาทจำนวน 5,000 ไร่นั้น ตระกูลชิดชอบถือครองเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น และหากต้องจ่ายค่าปรับ 500,000 บาท/ปี ตนเองก็สามารถจ่ายได้โดยไม่เดือดร้อน และการปรับเปลี่ยนหรือคืนที่ดินก็ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ตนยืนหยัดต่อสู้ในคดีนี้ไม่ใช่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ถือครองที่ดินกว่า 4,000 ไร่ในพื้นที่เดียวกัน ยืนยันถ้าผิดจริงและต้องจ่ายค่าปรับ จ่ายได้สบาย
แต่คำถามคือ ถ้าผมในฐานะพ่อเมืองยอมให้มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องต่อพี่น้องประชาชน หรือยอมให้คดีนี้จบลงโดยเอาแค่ตัวผมรอด ประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ถือครองที่ดินกว่า 4,000 ไร่จะอยู่อย่างไร เขาจะไม่มีทางสู้แน่นอน
นี่คือเหตุผลที่ต้องยืนหยัดตรงนี้ เงินชดเชยเล็กน้อยในทางกฎหมายไม่ใช่ปัญหา แต่ความยุติธรรมต่างหากที่ต้องปกป้อง เดี๋ยวรอดู ความจริงจะกระจ่างในอนาคตอันใกล้ นายไชยชนก กล่าว

ส่วนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในพรรค นายไชยชนก กล่าวถึงกรณี 3 สส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่โหวตสวนมติพรรคว่า ไม่เชื่อคำชี้แจงของทั้ง 3 คนที่อ้างว่าโหวตผิดพลาด จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.ของพรรค เป็นผู้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ สส.ทั้ง 3 คนอย่างละเอียด หากพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิด พรรคจะดำเนินการขับออกจากพรรคและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายไชยชนก ระบุว่า กรณีนี้ถือว่าร้ายแรงกว่ากรณี "งูเห่า" ในอดีต เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันมีความอ่อนไหว โดยมีข้อสงสัยว่ารัฐบาลถูกครอบงำโดยบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อชาติ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานด้านกฎหมาย พรรคภูมิใจไทยจึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับข้อสงสัยนี้ได้ และหากยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป พรรคอาจพิจารณาทบทวนจุดยืนในการร่วมรัฐบาล ขอบคุณผู้ที่พยายามสร้างสถานการณ์นี้ เพราะทำให้เห็นว่าในพรรคภูมิใจไทยมีใครที่มองผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเงินสำคัญกว่าชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
หากไม่มีกรณีนี้ เราจะล้างเลือดเสียออกจากพรรคไม่ได้ แต่ขอย้ำว่ายังไม่ได้ตัดสินว่าทั้ง 3 คนผิด ต้องรอผลการสอบสวน นี่คือจุดยืนของพรรค นายไชยชนก กล่าว ปัจจุบัน สส.ทั้ง 3 คนถูกสั่งห้ามเข้าร่วมกิจกรรมของพรรค เช่นเดียวกับกรณีของนายเอกราช ช่างเหลา ที่เคยมีปัญหาคล้ายกัน ส่วนข่าวลือว่า สส.อีก 6 คนของพรรคได้รับข้อเสนอให้โหวตสวนมติพรรคนั้น นายไชยชนกยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐาน และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยระบุว่าการป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของ สส.แต่ละคนในการยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมือง
นายไชยชนก ยังชี้ว่า ความไม่มั่นคงของรัฐบาลชุดนี้เป็นสัญญาณชัดเจนที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ สส.โหวตสวนพรรคเพิ่มเติมในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลตัดสินใจในหลายเรื่องที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับพรรคร่วมและประชาชน ประชาชนกำลังตื่นตัวและติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด หวังว่าทุกพรรคจะให้เกียรติการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะหากมองข้ามสิ่งนี้จะกลายเป็นภัยต่อตัวท่านเอง เขากล่าว
สำหรับมาตรการหลังการสอบสวน หากพบหลักฐานชัดเจน พรรคจะขับ สส.ทั้งสามคนออกและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะพิจารณาเป็นรายกรณีตามสาเหตุที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวอื่น :
อ่านเกม "ทรัมป์" หลังอินโดนีเซียปิดดีลกำแพงภาษี 19%
สึกแล้ว "เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก" ปมโยงสีกากอล์ฟ