ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เสี่ยงหลายจังหวัด! เตือนน้ำหลาก-ดินถล่ม 20-24 ก.ค.นี้

ภัยพิบัติ
21:30
225
เสี่ยงหลายจังหวัด! เตือนน้ำหลาก-ดินถล่ม 20-24 ก.ค.นี้
สทนช.เตือนจังหวัดภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก-ตะวันตก-ใต้ เฝ้าระวังน้ำหลากและดินถล่ม รวมถึงระดับน้ำเจ้าพระยา-น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 20-24 ก.ค.นี้

วันนี้ (17 ก.ค.2568) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง หลังติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

สทนช.ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำและคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า มีพื้นที่บางส่วนเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทันและระดับน้ำโขงเปลี่ยนแปลง ในช่วงวันที่ 20-24 ก.ค. ดังนี้

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลาก-ดินถล่ม-น้ำท่วมขัง

ภาคเหนือ

  • จ.เชียงราย (อ.เมืองเชียงราย แม่สาย แม่จัน แม่ฟ้าหลวง พญาเม็งราย เวียงชัย เทิง ป่าแดด ขุนตาล เชียงของ เวียงแก่น เวียงเชียงรุ้ง ดอยหลวง และเชียงแสน)
  • จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ปาย และสบเมย)
  • จ.เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว แม่แตง แม่ริม แม่แจ่ม แม่อาย พร้าว จอมทอง และอมก๋อย)
  • จ.ลำพูน (อ.เมืองลำพูน และบ้านโฮ่ง)
  • จ.ลำปาง (อ.เมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม และเมืองปาน)
  • จ.พะเยา (อ.เมืองพะเยา ดอกคำใต้ ปง เชียงคำ ภูซาง และเชียงม่วน)
  • จ.แพร่ (อ.สอง ร้องกวาง และวังชิ้น)
  • จ.น่าน (อ.เมืองน่าน บ่อเกลือ ปัว ทุ่งช้าง ภูเพียง สองแคว เฉลิมพระเกียรติ เชียงกลาง สันติสุข แม่จริม ท่าวังผา และเวียงสา)
  • จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ และอุ้มผาง)
  • จ.อุตรดิตถ์ (อ.ฟากท่า ท่าปลา และน้ำปาด)
  • จ.พิษณุโลก (อ.นครไทย และวังทอง)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • จ.เลย (อ.เมืองเลย ท่าลี่ นาด้วง ด่านซ้าย นาแห้ว และปากชม)
  • จ.หนองคาย (อ.เมืองหนองคาย โพนพิสัย และรัตนวาปี)
  • จ.บึงกาฬ (อ.เมืองบึงกาฬ เซกา บึงโขงหลง บุ่งคล้า และปากคาด)
  • จ.อุดรธานี (อ.เมืองอุดรธานี วังสามหมอ เพ็ญ สร้างคอม บ้านดุง และหนองหาน)
  • จ.สกลนคร (อ.อากาศอำนวย พรรณานิคม บ้านม่วง และสว่างแดนดิน)
  • จ.นครพนม (อ.ศรีสงคราม วังยาง ท่าอุเทน บ้านแพง และนาทม)
  • จ.ยโสธร (อ.เมืองยโสธร และมหาชนะชัย)
  • จ.อุบลราชธานี (อ.โขงเจียม นาตาล สิรินธร พิบูลมังสาหาร เขื่องใน และศรีเมืองใหม่)

ภาคตะวันออก

  • จ.ชลบุรี (อ.บางละมุง และศรีราชา)
  • จ.ระยอง (อ.เมืองระยอง บ้านค่าย ปลวกแดง และนิคมพัฒนา)
  • จ.จันทบุรี (อ.เมืองจันทบุรี ขลุง ท่าใหม่ โป่งน้ำร้อน แก่งหางแมว เขาคิชฌกูฏ นายายอาม มะขาม และแหลมสิงห์)
  • จ.ตราด (อ.เมืองตราด เขาสมิง คลองใหญ่ และบ่อไร่)

ภาคตะวันตก

  • จ.กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี และทองผาภูมิ)

ภาคใต้

  • จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง สุขสำราญ กะเปอร์ ละอุ่น และกระบุรี)
  • จ.พังงา (อ.เมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง)
  • จ.ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
  • จ.สุราษฎร์ธานี (อ.ชัยบุรี บ้านตาขุน พระแสง และบ้านนาสาร)

เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกักบริเวณ จ.ตาก ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เลย หนองคาย สกลนคร อุดรธานี กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี และกระบี่ และขอให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, กว๊านพะเยา จ.พะเยา, หนองหาร จ.สกลนคร ให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุด

เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำอิง บริเวณ อ.เชียงคำ เทิง พญาเม็งราย ขุนตาล และเชียงของ จ.เชียงราย, แม่น้ำสาย บริเวณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, แม่น้ำปิง บริเวณ อ.เชียงดาว แม่แตง แม่ริม และสันทราย จ.เชียงใหม่, แม่น้ำยม บริเวณ อ.สอง จ.แพร่ แม่น้ำน่าน บริเวณ อ.เมืองน่าน ท่าวังผา ภูเพียง และเวียงสา จ.น่าน, ห้วยหลวง บริเวณ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี, ลำน้ำก่ำ บริเวณ อ.วังยาง จ.นครพนม, ลำน้ำยัง บริเวณ อ.เสลภูมิ และโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และลำเซบาย บริเวณ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร

เฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากการปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 490 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) เป็น 500-700 ลบ.ม./วินาที

เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสม บริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ส่งผลให้ระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จ.เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือ ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วม ตรวจสอบแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ วางแผนบริหารจัดการน้ำโดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนเตรียมพร้อมขนของขึ้นสู่ที่สูงหรืออพยพได้ทันท่วงที

อ่านข่าว

กรมอุตุฯ ออกประกาศ ฉ.1 เตือน 16 จว.ฝนตกหนัก-หนักมาก ช่วงวันที่ 19 -24 ก.ค.นี้

ฝนหนักไม่หยุด แม่น้ำปิง-น่าน-หงาวพุ่ง เตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน