ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สงครามสู้รบแนวชายแดนยุติ แต่ “ไอโอ-เวทีโลก” ไทยยังตามหลัง

การเมือง
15:53
299
สงครามสู้รบแนวชายแดนยุติ แต่ “ไอโอ-เวทีโลก” ไทยยังตามหลัง
อ่านให้ฟัง
04:09อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สงคราม 3 ด้าน จากความขัดแย้งและนำไปสู่การปะทะใช้อาวุธห้ำหั่นกัน ของไทยและกัมพูชา ในด้านการสู้รบในพื้นที่ตอนนี้สงบลงแล้ว ยังเหลือสงครามไอโอและสงครามบนเวทีนานาชาติ ที่ต้องเดินหน้าต่อ

สำหรับสงครามไอโอ หรือปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ถือเป็นสงครามรูปแบบใหม่ในโลกปัจจุบัน มีทั้งข้อเท็จจริง และข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ ที่กำลังแพร่ระบาดและเป็นที่นิยมไปทั่ว เป้าหายคือโจมตี ต่อว่า ด้อยค่าฝ่ายตรงข้ามด้วยความเข้มข้นสะใจ ยิ่งมากยิ่งดี

ท่ามกลางผู้บริโภคข้อมูลข่าวสาร ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้สนใจ หรือเกิดความฉงนสงสัยเลยว่า เป็นความจริงหรือไม่ หรือเป็นความต้องการอะไร แต่พร้อมจะเสพ และแชร์ต่อ แถมด้วยคอมเมนต์ที่เกิดจากอารมณ์ความรู้สึกเป็นสำคัญ

ไม่เพียงเท่านั้น ยุคสมัยปัจจุบัน ยังก่อเกิดนักสร้างคอนเทนท์ ทั้งข้อความผรุสวาท และรูปภาพที่มาจากการตัดต่อภาพ หน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้น แม้แต่คนที่ไม่ได้มีความรู้หรือเข้าใจเรื่องนั้น ๆ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ขอแจ้งเกิด

ขณะที่สงครามบนเวทีนานาชาติ ก็ได้เห็นการออกโรงกล่าวหากันถี่ยิบ โดยเฉพาะจากฝั่งกัมพูชา ที่ส่วนใหญ่กล่าวหาโจมตีฝ่ายไทย ตั้งแต่โฆษกหญิงกระทรวงกลาโหม โฆษกรัฐบาล ผู้นำรัฐบาลอย่างสมเด็จฮุน มาเน็ต และที่สำคัญ สมเด็จฮุน เซน หัวขบวนนักเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลตัวจริงของกัมพูชา ที่ขยันโพสต์ข้อความและภาพให้เป็นข่าวเชิงรุกสู่ชาวโลกได้ทุกวัน

ไม่ว่าจะซัดใส่ไทย เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายพื้นที่พลเรือน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มาเลย์ ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ ล่วงรุกละเมิดอธิปไตยกัมพูชา โปรยสารพิษ จับกุมทหารกัมพูชาแล้วทรมาน ให้อดข้าวอดน้ำ สารพัด กระทั่งพาผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่จริง

แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเฟกนิวส์ หรือสวนทางกับความเป็นจริง แต่ด้วยลูกขยัน อาศัยความถี่ แม้แต่นักยุทธศาสตร์ทางการทหารหลายคนยังยอมรับว่า อาจได้ผลเพราะมีคนเชื่อ เนื่องจากถูกกรอกหูหรือเสพสื่อต่อเนื่องกันทุกวัน

ขณะที่ฝ่ายไทย ทั้งรัฐบาลไทย และกระทรวงการต่างประเทศ กลับมีปฏิบัติการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารน้อยมาก ทั้งในประเทศและบนเวทีโลก เมื่อเทียบกับฝั่งกัมพูชา หรือหากมี แต่เป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ ขาดการประสานอย่างเป็นระบบ มีหนำซ้ำ ยังล่าช้า จนถูกเปรียบเปรยว่า ช้ากว่ากัมพูชาหนึ่งก้าวเสมอ

มีเพียงในส่วนของกองทัพ ที่เข้มข้นเข้มแข็ง ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันอธิปไตยของชาติและการสื่อสารทั้งผ่านโลกออนไลน์ และผ่านผู้นำทหาร ไปยังภาคประชาชน

นำไปสู่คำถามที่ว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งที่ศักยภาพและความพร้อมของไทยเหนือกว่า แต่กลับไม่สามารถใช้ประโยชน์หรือชิงความได้เปรียบได้ หรืออาจเป็นที่กลไก หรือตัวบุคคลที่ต้องคอยขับเคลื่อนหรือบัญชาการเกม ซึ่งอาจเป็นผลจากขาดนายกฯตัวจริง แต่มีเพียงผู้รักษาราชการแทนนายกฯ และอาจไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดจริงในมือ

หากเป็นเช่นนั้นจริง เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มมีการปะทะและใช้ยุทโธปกรณ์ยิงถล่มใส่กัน ยังไม่เพียงพอสำหรับการสรุปบทเรียน และพลิกจังหวะกลับมาคุมเกมความได้ปรียบได้อีกหรือ

หรือต้องเปลี่ยนแปลงใหญ่ ตั้งแต่ระดับผู้นำรัฐบาล

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "ภูมิธรรม" เร่งรัดเยียวยา ปชช. 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

สส.ศรีสะเกษจี้ถาม รมช.มท.-งบฯ ดูแลประชาชนชายแดนอยู่ไหน

โฆษก ทบ. ชี้ "ช่องอานม้า" อยู่ในเส้นปฏิบัติการทางทหารไทย