วันนี้ (31 ก.ค.2568) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในวาระพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ถามนายกรัฐมนตรี แต่ได้มอบหมาย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้แทนเรื่อง หน้าที่ของรัฐบาลในการรับมือดำเนินการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายธนาหยิบยกงบประมาณในพื้นที่ ที่ยังไม่ได้ลงไปแก้ไขปัญหาแม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้ใช้แต่เงินบริจาค และการดูแลประชาชนในศูนย์อพยพ ที่ไม่มีมาตรการรองรับที่พร้อมเหมาะสม โดยเฉพาะรัฐบาลมีงบกลางอยู่ 1 แสนล้านบาท ใจดำหรือไม่ไม่นำงบฯ มาใช้ กล่าวช่วงหนึ่งว่า “รู้สึกเสียใจที่ครั้งหนึ่งเคยโหวตให้เป็นรัฐบาล”
และถามในประเด็นเรื่องเงินเยียวยาว่า การเยียวยาให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาทหรือเยียวยาให้ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบครอบครัวละ 3,000 บาท นั้นไม่เพียงพอ ถามถึงการเตรียมจ่ายค่าไฟในศูนย์อพยพ และมาตรการสร้างขวัญและกำลังใจที่จะมอบให้ทหารและหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่แนวหน้า
น.ส.ธีรรัตน์ ลุกขึ้นตอบกระทู้ สาระสำคัญระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะในวันที่ 24 ก.ค. รัฐบาลได้ดำเนินการรับมือในทันที ส่วนเรื่องงบประมาณดำเนินการ ในช่วงการเทียบประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย อปท. สามารถใช้งบประมาณที่จัดเตรียมศูนย์อพยพได้ทันที ทั้งเรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม 1-3 วันแรก
ขณะเดียวกันรัฐบาล ได้อนุมัติงบประมาณตามระเบียบการเยียวยา เป็นการทดลองราชการ 100 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.การอนุมัติเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการได้ทันที
ยืนยันว่า ประชาชนตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงาน จะไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งได้เชิญกรมบัญชีกลางชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า สิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ เพื่อให้การใช้เงินมีประสิทธิภาพรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังมีกรมคุ้มครองสิทธิ์ ประกันสังคม และทุกหน่วยงานที่จะดูแลประชาชน รวมถึงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมชี้แจงว่าค่าน้ำค่าไฟในศูนย์อพยพก็ไม่ได้มีการเก็บค่าใช้จ่าย
น.ส.ธีรรัตน์ตอบ เรื่องความล่าช้าด้านการสื่อสารของรัฐบาล เรื่องปัญหาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดติดขัดการใช้งบประมาณด้านระเบียบ และเรื่องของมาตรการเยียวยาด้านปศุสัตว์ว่า โดยได้ต่อสายกลางห้องประชุม สอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่ผู้อภิปรายอ้างว่า ติดปัญหาการแจ้งเรื่องระเบียบ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งว่าเบิกเงินได้ รวมถึงเบี้ยเลี้ยง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ.ด้วย สามารถเบิกได้ตามระเบียบ
ส่วนเรื่องความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ต้องรอให้ฝ่ายความมั่นคงอนุญาตลงพื้นที่ตรวจสอบก่อน สำหรับกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ใน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 3 ส.ค.นี้ จะนำเงินมอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และพร้อมให้ข้อมูลกับสมาชิก และเน้นย้ำว่า รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจและไม่เคยนอนหลับแม้แต่วันเดียว ทำงานอย่างหนัก และร่วมมือกันในการแก้ไขสถานการณ์
และกล่าวช่วงหนึ่งว่า รมช.กลาโหม แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดน ต้องการขอกำลังใจ ดังนั้นการทะเลาะเบาะแว้งที่คนไทยสร้างขึ้นเองขอให้หยุด เพราะว่า วันนี้ศัตรูของเราคือประเทศที่สร้างความรุนแรง ก่อนที่นายธนา กล่าวแทรกว่า ไม่ได้ทะเลาะกับรัฐมนตรี แต่เป็นคำถามที่ใส่อารมณ์
น.ส.ธีรรัตน์ตอบคำถาม เรื่องการเตือนกองทัพกัมพูชา ที่ขนอาวุธหนักมาประชิดชายแดนและพุ่งเป้าทำร้ายพลเรือนไทยว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามขึ้น เพราะไม่ใช่คำตอบหรือบทสรุป ว่า ใครคือผู้ชนะหรือผู้แพ้ เมื่อเกิดสงครามก็แล้ว ทุกคนคือผู้พ่ายแพ้ ประชาชนทั้งสองประเทศต้องสูญเสียและจบชีวิต รัฐบาลไทยได้พยายามตลอด ที่จะใช้แนวทางสันติวิธีเพื่อยุติปัญหา
เมื่อมีการรุกรานไทยก็มีการโต้ตอบ และวันนี้สามารถรวบรวมหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งนานาชาติต่างรู้ว่า ใครเป็นผู้กระทำความรุนแรงกับประเทศไทยก่อน จึงขอสื่อสารให้ตรงกันและรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยเอาไว้เพื่อต่อสู้ในเวทีต่าง ๆ ทั่วโลก
“หากท่านยังมีความคิดหรือการทบทวน ในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านจะเห็นว่า เรามีการเตรียมกำลังแต่เราจะไม่เป็นผู้เริ่ม เราจะไม่ยิงปืนใส่ฝั่งเขาก่อน แน่นอนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นการขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ การผิดต่ออนุสัญญาเจนีวา กัมพูชายิงปืนใส่พลเรือน ที่ทหารไทยจะไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว
อ่านข่าว : สู้รบชายแดน ปชช.เสียชีวิต 17 คน พบเครียดสูง 1,603 คน
กมธ.ต่างประเทศ เดินสายชี้แจงทูตหลายประเทศ หวั่นเข้าใจผิด ถูก "เขมร" บิดเบือน