วันนี้ (27 ส.ค.2568) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้พิทักษ์ป่าตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบเหตุการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและประชาชนทุกคนช่วงวิกฤตสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างมาก จึงขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยแนวทางการพัฒนาพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ได้กำหนดไว้ 2 ระยะ ประกอบด้วย
ระยะเร่งด่วน การช่วยเหลือเยียวยาพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่และได้รับผลกระทบจากความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนแผนงาน งบประมาณ และวัสดุอุปกรณ์จำเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อประสานการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง การคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในการป้องกันและปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนของประเทศไทย และการบูรณะซ่อมแซมและฟื้นฟู วัสดุ ครุภัณฑ์ สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายและสูญหาย พร้อมประเมินความเสียหายเบื้องต้น รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามลำดับชั้น และประสานงานและเร่งรัดการเก็บกู้วัตถุระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ปฏิบัติงานและเส้นทางตรวจการณ์ เส้นทางยุทธวิธี และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในการเผชิญเหตุวัตถุระเบิดและกู้ชีพกู้ภัยฉุกเฉิน โดยวิทยากรจากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) เพื่อให้มีความพร้อมในการเดินลาดตระเวนต่อไป

ขณะที่การลาดตระเวนในปัจจุบัน ได้ปรับแผนร่วมกับฝ่ายทหาร เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ามีความชำนาญทางด้านพื้นที่ จะร่วมอำนวยความสะดวก ทั้งการช่วยเสริมกำลังพลและกำลังอยู่ระหว่างการเสริมยุทธโธปกรณ์ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้มีประสิทธิภาพและมีความทันสมัยเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะได้อาวุธปืนใหม่เดือน ต.ค.นี้ ถือเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องทรัพยากรและทรัพย์สินของทางราชการ
ทั้งนี้ ยังได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและทหาร พบว่ามีการวางทุ่นระเบิดใหม่ จึงให้ปรับแผนการลาดตระเวน และกำชับจะต้องลาดตระเวนด้วยความระมัดระวัง ที่สำคัญต้องรักษาชีวิต รวมทั้งประสานทหารและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้ามาช่วยตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้การลาดตระเวนนั้นเป็นไปด้วยความราบรื่นและปลอดภัย
นายอรรถพล เจริฐชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงการสนับสนุนการทำงานของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ว่า เป็นหน่วยงานที่มีเนื้อที่ป่าอนุรักษ์ในพื้นที่รับผิดชอบ 6 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร รวมสวนรุกขชาติและสวนพฤกษศาสตร์ ทั้งสิ้น 2,280,874.67 ไร่ และมีหน่วยงานภาคสนามในสังกัด 61 หน่วยงาน
ทั้งนี้ เส้นทางลาดตระเวนเพื่อคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า และเส้นทางยุทธวิธี ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีระยะทางรวม 398 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูแลให้ครอบคลุมเส้นทาง

กรมอุทยานฯ จึงได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดน พร้อมสนับสนุนเครื่องรับ-ส่งวิทยุ ระบบ VHF/FM ชนิดมือถือขนาด 5 วัตต์ จำนวน 20 เครื่อง
ส่วนการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีบ้านพักของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และสถานีควบคุมไฟป่าเขาพระวิหาร ได้รับความเสียหาย 6 คน ได้มอบเงินบริจาคจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ในการสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือน จำนวน 234,688 บาท
นอกจากนี้ ยังมอบเงินสนับสนุนจากกองทุนสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่บ้านพังทั้งหลัง อีก 3 คน เป็นเงิน 155,000 บาท
ล่าสุดสำรวจพบอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน สาเหตุที่เพิ่งสำรวจพบ เนื่องเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่อเนื่องและเพิ่งได้ออกมาจากพื้นที่ป่า ก่อนจะพบว่าบ้านพักได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดเช่นกัน ซึ่งทางกรมอุทยานฯ จะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
