ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ไทย”รับมือวิกฤตโลกเปลี่ยน “จตุพร” จี้ยกระดับ e-Government

เศรษฐกิจ
18:10
113
 “ไทย”รับมือวิกฤตโลกเปลี่ยน “จตุพร” จี้ยกระดับ e-Government
รมว.พาณิชย์ โชว์วิชั่นพัฒนาประเทศท่วมกลางวิกฤตโลก ทั้งภูมิรัฐศาสตร์-ภูมิเศรษฐกิจ จี้รัฐปรับกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ สนองความต้องการของประชาชน-ภาคธุรกิจ

วันนี้ ( 27 ส.ค.2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในงานสำเภา-นาวาทอง ประจำปี 2568 ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้างทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง การแข่งขันทางการค้า หนี้ครัวเรือนสูง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม สังคมสูงวัย ปัญหาคอร์รัปชัน รวมถึงวิกฤตระดับโลกด้านภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐกิจ เช่น การเจรจาภาษีไทย–สหรัฐฯ และ FTA ไทย–สหภาพยุโรป ตลอดจนความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นและคุณภาพชีวิตของประชาชน

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์

ดังนั้น ภาครัฐจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ มีประสิทธิภาพ คล่องตัว และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจได้อย่างแท้จริง โดยต้องอาศัยผู้นำและผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับสู่ระบบ e-Government ที่โปร่งใส เชื่อมโยง และให้บริการประชาชนอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งบูรณาการแนวคิด ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

ความสำคัญของระบบราชการคือการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ หากฝ่ายการเมืองไม่สามารถสื่อสารเชื่อมโยงไปยังส่วนราชการได้ ภารกิจของรัฐก็ไม่อาจขับเคลื่อนได้สำเร็จ ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมหอการค้าไทยที่จัดรางวัล “สำเภา–นาวาทอง” ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐเร่งปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เองก็ได้มีการปรับตัวโดยยึดสโลแกน พาณิชย์พึ่งได้ แค่ทักก็ถึง แก้ปัญหาทุกเรื่อง ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

โดยชี้ว่าเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกระดับจำเป็นต้องมี Mindset ที่ถูกต้อง หาก คนดี ระบบดี จะนำไปสู่การทำงานที่มีคุณภาพ เกิดจากการเรียนรู้ พัฒนา และสร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความเชื่อมโยงตั้งแต่ ต้นน้ำ–กลางน้ำ–ปลายน้ำ มีความสำคัญอย่างยิ่ง ภาครัฐต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเชิงบูรณาการเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจและการลงทุน (Ease of Doing Business และ Ease of Investment) เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ โดยในปีที่ผ่านมา หอการค้าฯ ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐ 22 แห่ง นำร่องเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อลดขั้นตอน ลดการเรียกเอกสาร และยกเลิกการเซ็นสำเนา ซึ่งสามารถลดกระบวนการได้กว่า 500 รายการ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพภาครัฐให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ รางวัล สำเภา–นาวาทองไม่ได้เป็นเพียงแค่การเชิดชูเกียรติ แต่ยังเป็นแรงผลักดันที่กระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานของภาครัฐมีความ มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับปี 2568 รางวัล สำเภา–นาวาทอง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ รางวัลระดับกระทรวง, ระดับกรม, ระดับกระบวนงาน และระดับภูมิภาค โดยมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 39 หน่วยงาน นับเป็นหลักฐานชัดเจนถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของภาครัฐในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

อ่านข่าว:

พณ.รุกตลาดลาตินอเมริกา ถกโตโยต้าอาร์เจนตินา ดันนำเข้าอุปกรณ์ยานยนต์ไทย

สงครามราคาข้าวโลกแข่งดุ ฉุด 7 เดือนไทยส่งออกลดลง 25.09%

ต่างชาติลงทุนไทย 7 เดือน ขนเงินเข้าปท. 1.59แสนล้าน ญี่ปุ่นลงทุนมากสุด