ปีนี้น้ำท่วมภาคกลางมาเร็วกว่าปี 2567 ทั้งที่ปีที่แล้วหลายคนมองว่าการจัดการน้ำทำได้ดี เรื่องนี้ ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายสาเหตุหลักว่า มาจากฝนที่มาเร็วและตกหนักกว่าที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลระบุว่า ก่อนเข้าหน้าฝน เขื่อนใหญ่หลายแห่งมีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วฝนตกชุก จึงมีการวางแผนพร่องน้ำให้เหลือราว 80% ภายในต้น พ.ย. เพื่อรองรับฝนปลายฤดู แต่ปีนี้ฝนกลับมาเร็ว โดยเฉพาะภาคเหนือ เมื่อพายุ "วิภา" ทำให้เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำพุ่งขึ้นใกล้เคียงปี 2554 ในเวลาอันสั้น และทำให้หลายพื้นที่ในน่านเผชิญน้ำท่วมรุนแรง

ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กลางเดือน ก.ค. น้ำจากแม่น้ำยมและน่านยังทำให้สุโขทัยท่วม ขณะที่การควบคุมเขื่อนสิริกิติ์ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ท้ายเขื่อนเสียหาย ต่อมาพายุ "คาจิกิ" แม้ประเมินว่าไม่รุนแรง แต่กลับทำให้เกิดน้ำหลากในแม่แจ่ม เชียงใหม่ และ เชียงราย แม้ระดับน้ำที่นครสวรรค์ยังทรงตัว แต่ในภาคกลางยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลลงเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันเขื่อนเจ้าพระยาต้องบริหารการระบายอย่างรอบคอบ เพราะหากระบายเกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะต้องผันน้ำเข้าทุ่งนา แต่ชาวนาฝั่งซ้ายชัยนาท–ป่าสักยังไม่ทันเก็บเกี่ยว เพราะน้ำมาไว ก่อนแผนการเก็บเกี่ยวของชาวนา จึงยังผันน้ำเข้าทุ่งไม่ได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 22 ก.ย. จึงจะสามารถผันน้ำเข้าทุ่งได้ หรือวันที่ 24 ก.ย.เป็นต้นไป
ส่วนสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มฝนตกหนักในภาคกลางตอนล่าง แม้ไม่ตรงกับช่วงน้ำทะเลหนุน แต่สถานการณ์น้ำภาคกลางยังคงตึงตัวไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. ต่อเนื่องถึงต้น ต.ค.
ผศ.ดร.สิตางศุ์ ย้ำว่า ทุกฝ่ายกำลังทำงานอย่างเต็มที่ แม้ต้องเผชิญแรงกดดันและข้อจำกัดหลายด้าน แต่ยังคงเดินหน้าบริหารจัดการน้ำจนกว่าจะพ้นฤดูฝนนี้
อ่านข่าว :
เตือนเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม 21 จังหวัด ถึง 12 ก.ย.นี้
รับมือ “พายุโซนร้อนตาปะฮ์” 11-12 ก.ย. ฝนตกหนัก จับตาแม่น้ำสาย-ลำน้ำกก ระดับน้ำสูง
กรมควบคุมโรค ย้ำยังคงขาย "เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" ได้เฉพาะเวลาที่กำหนด