แม้อดีตนายก “ทักษิณ ชินวัตร” จะถูกจำกัดบริเวณอยู่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม จากคดีชั้น 14 ร.พ.ตำรวจไปหลายวันแล้ว แต่คปท. กองทัพธรรม ศปปส.ไม่หยุดเคลื่อนไหว ยังเดินสายกดดันให้ ป.ป.ช. เอาผิดกับข้าราชการและนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมยังยกขบวนไปกรมราชทัณฑ์ เพื่อทักท้วงการให้สถานะ “นักโทษชั้นกลาง” และ “นักโทษชั้นดี” เนื่องจากเกรงอดีตนายกฯ จะรับพระราชทานอภัยโทษและพ้นโทษออกมาจากคุมขังนอกเรือนจำเร็วกว่ากำหนด ด้วยเหตุเคยหลบหนีคดีไปต่างประเทศ
พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) อธิบายสาเหตุที่กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย และคปท.ยังต้องเคลื่อนไหวกดดันการทำงานของป.ป.ช. คดีเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลตำรวจ 12 คน ประกอบด้วย
- นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้อนุมัติให้นายทักษิณไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจเป็นระยะเวลา 120 วัน
- นายสิทธิ สุธีวงศ์ อดีตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้อนุมัติให้นายทักษิณไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจเป็นระยะเวลา 30 วัน
- นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้อนุมัติให้นายทักษิณไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจเป็นระยะเวลา 60 วัน
- นายนัสที ทองปลาด ผู้ช่วยกรุงเทพมหานครด้านความมั่นคง ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในขณะนั้น ผู้เสนอให้อนุมัติให้นายทักษิณไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจเป็นระยะเวลา 30 วัน 60 วัน 120 วัน
- นพ.วัฒนชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.กองการแพทย์ กรมราชทัณฑ์

- พ.ต.อ.ชนะ จงโชคดี แพทย์ สบ 5 รพ.ตำรวจ และ เลขาฯคณะกรรมการแพทย์ แพทย์เจ้าของไข้ และผู้ออกใบความเห็นแพทย์
- พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ แพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้อนุมัติความเห็นแพทย์
- ส่วนแพทย์อีก 3 คน คือ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผบ.รร.แพทย์ รพ.ตำรวจ เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิการณ์ แพทย์ใหญ่ รพ. ตำรวจในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์ และ พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ผู้ตรวจรักษา รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ทางคณะกรรมการแพทยสภา มีมติสั่งให้ลงโทษไปแล้ว
- แต่ยังมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ คือ นายสัญญา วงศ์หินกอง พัศดี เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ผู้อนุญาตให้ส่งตัวนายทักษิณไปรักษาโรงพยาบาลตำรวจ และ นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลวิชาชีพ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ผู้เสนอให้ส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ที่เอื้อประโยชน์ อดีตนายกฯ ทักษิณ เข้าพักรักษาตัวที่ ห้องพิเศษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่ป.ป.ช. เคยชี้มูลไปแล้ว แต่หากพิจารณาจากคำสั่งศาลน่าจะยังมีข้าราชการและนักการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องเพิ่มเติม

โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ในขณะนั้น คือ พ.ต.อ. ทวี ซึ่งยังไม่ถูกชี้มูล และน่าจะเข้าข่ายถูกชี้มูลด้วย เนื่องจากการขยายเวลาการรักษาตัวของอดีตนายกฯทักษิณ ต้องมีผู้เซ็นรับรองอาการป่วยตามรายงานของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในช่วงเวลาที่อยู่รพ.ตำรวจ ตั้งแต่ 60 วัน ขยายเป็น 90 วัน และ 120 วัน ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ดังนั้น คปท.จึงยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.นับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบด้วย
และย้ำว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นการปรับสถานะผู้ต้องขัง ซึ่งมีข่าวจากกรมราชทัณฑ์ว่า หลังจากอดีตนายกฯทักษิณ เข้าเรือนจำแดนแรกรับแล้ว จะมีการขยับให้เป็นนักโทษชั้นกลาง และอีก1-2 เดือนก็จะถูกปรับให้เป็นนักโทษชั้นดี เพื่อจะได้เข้าข่ายได้รับการพักโทษอีก
“คนอื่น ๆ มองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เรามองว่า หลังออกจากแดนแรกรับ ก็ยังเป็นนักโทษชั้นกลางไม่ได้ และควรถูกจัดให้อยู่ในสถานะนักโทษชั้นเลว เนื่องจากเคยหลบ หนีไปต่างประเทศ กลับมาแล้วก็หนีการคุมขัง กระทำความผิดซ้ำ จึงไม่ควรได้รับสิทธิพระราชทานอภัยโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ...หากมีการปรับเป็นนักโทษใน 2 สถานะนี้ จึงตั้งข้อสังเกตว่า มีขบวนการเตรียมการไว้หรือไม่ และหากคณะกรรมการราชทัณฑ์ หรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์ เซ็นคำสั่งก็จะถูกร้องเรียนอีก” แกนนำคปท.กล่าว

สำหรับการยุติการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พิชิต บอกว่า หลังรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล จัดตั้งครม.เสร็จ และแถลงนโยบายแล้ว ทางกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ จะยื่นบันทึกข้อตกลง หรือ MOA กับรัฐบาล โดยขอให้มีการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 การยกเลิกกฎหมายกาสิโน การแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่แตะหมวดที่ 1(หมวดบททั่วไป) และหมวดที่ 2 (หมวดพระมหากษัตริย์)
หลังจากครม.ชุดใหม่เปิดประชุมนัดแรก และรับ MOA ทางกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ และคปท.ก็จะยุติการชุมนุม ภายใต้เงื่อนไขยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับ ซึ่ง ก่อนหน้านี้ ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เคยประกาศไว้ในสภาให้ยกเลิกว่า ที่สุดแล้ว จะเอาอย่างไร

“กองทัพและทหาร ยืนยันใช้มาตราส่วน 1:50,000 ตารางกิโลเมตร ขณะที่รัฐบาลใช้มาตราส่วน 1: 200,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งภาคประชาชนเห็นว่าสมควรยกเลิก และควรจัดให้มีการทำ MOU ใหม่ สาระสำคัญอยู่ตรงนี้ และหากยกเลิกจะต้องมีการจัดทำกรอบเจรจาใหม่ โดยยึดมาตราส่วน 1:50,000 ตารางกิโลเมตร เสนอเป็น MOU68 หรือ MOU 69 เพื่อเป็นการชิงความได้เปรียบกับกัมพูชาในการเจรจา เพราะหากใช้ตามรัฐบาลมาตราส่วน 1: 200,000 ขณะที่กองทัพใช้มาตราส่วน 1:50,000 ตารางกิโลเมตรจะสร้างความสับสน”

แกนนำกลุ่มคปท.ยอมรับว่า กรอบการทำงานของรัฐบาลมีระยะเวลาจำกัด จากเงื่อนไขต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และการแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งอาจมีปัญหาเนื่อง จากมติศาลรัฐธรรมนูญให้ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญถึง 3 ครั้ง และประชาชนไม่สามารถเลือกสสร.ได้โดยตรง ประเด็นนี้จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่
“ร่างรัฐธรรมนูญจะต้องผ่านสภา หากมีการยุบสภาไปก่อน รัฐบาลรักษาการก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างจะติดล็อคไปหมด ดังนั้นการจะยุติการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ จึงต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป” แกนนำคปท.ระบุ
การเคลื่อนไหวของแกนนำคปท.ภายใต้กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ฯ แม้ดูเหมือนจะแผ่วหลังจากอดีตนายกฯ ทักษิณ อยู่ในเรือนจำ แต่การรุกคืบร้องเอาผิดนักการเมือง และเสนอเงื่อนไข MOA ใหม่ ให้รัฐบาลอนุทิน ยังน่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น การยกเลิกกาสิโน การยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 และเสนอให้จัดทำ MOU68 , MOU 69 ยังน่าติดตาม
อ่านข่าว