ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตั้งแต่ 15.00 น. วันนี้ "เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับเพิ่มการระบายน้ำ เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที

ภัยพิบัติ
12:28
93
ตั้งแต่ 15.00 น. วันนี้ "เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับเพิ่มการระบายน้ำ เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที
กรมชลประทาน แจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่าน "เขื่อนเจ้าพระยา" โดยจะเริ่มทยอยปรับเพิ่มเป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันนี้ (3 ต.ค.68) ขอประชาชนพื้นที่นอกคันกั้นน้ำเตรียมพร้อม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (3 ต.ค.2568) กรมชลประทาน แจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยจะเริ่มทยอยปรับเพิ่มจากอัตรา 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันนี้ เป็นต้นไป และจะคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงเวลา 21.00 น. เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมทางตอนบนจากอิทธิพลของพายุ "บัวลอย" ไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 2,770 ลบ.ม./วินาที และคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราระหว่าง 2,700-2,900 ลบ.ม./วินาที เมื่อสมทบกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันอีกประมาณ 180 ลบ.ม./วินาที เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้น

กรมชลประทาน จะใช้พื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ชะลอน้ำ รวมกับการรับน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่ง แต่เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีฝนตกกระจายตัวต่อเนื่องในพื้นที่ชลประทานตอนล่าง จึงจำเป็นต้องแบ่งรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งตามศักยภาพของคลองรวมประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีที่ยังเก็บเกี่ยวไม่แล้วเสร็จ

พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันไดให้อยู่ในอัตราระหว่าง 2,500-2,700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่การเกษตรให้ได้มากที่สุด

เช็กพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 

การระบายน้ำในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10-40 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำ บริเวณต่าง ๆ เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูง 

จ.อ่างทอง : วัดไชโย ต.เทวราช อ.ไชโย, อ.ป่าโมก รวมทั้งคลองโผงเผง

จ.ชัยนาท : ต.โพนางดำออก และบ้านท่าทราย อ.สรรพยา

จ.สิงห์บุรี : วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี, อ.พรหมบุรี และ วัดเสือข้าม อ.เมืองสิงห์บุรี

จ.พระนครศรีอยุธยา : ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ รวมถึงพื้นที่แม่น้ำน้อย สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ และคลองบางบาล

กรมชลประทานได้แจ้งเตือนจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา 11 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำเพิ่มเติมได้ที่ wmsc.rid.go.th และ bigdata-swoc.rid.go.th

สถานการณ์น้ำ ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 เขื่อนหลัก

ด้านสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวม 22,423 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 90 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีก 2,448 ล้าน ลบ.ม. ส่วนในด้านการระบายน้ำ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ทยอยปรับลดการระบายน้ำจากเดิม 10 ล้าน ลบ.ม./วัน เหลือ 5 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่าง

ขณะเดียวกัน มีการบริหารจัดการการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์รวมกันให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 30 ล้าน ลบ.ม./วัน โดยเขื่อนสิริกิติ์จะปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำแบบขั้นบันไดจาก 15 ล้าน ลบ.ม./วัน ไปจนถึง 25 ล้านลบ.ม./วัน พร้อมทั้งติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นที่ด้านท้ายน้ำ

อ่านข่าว : นายกฯเร่งจ่ายเงินเยียวยาประชาชน เหตุไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา

"เบน สมิธ" ลั่นถูกใส่ร้ายยันไม่เกี่ยวคอลเซนเตอร์ จ่อฟ้องปกป้องชื่อเสียง