ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"เบน สมิธ" ลั่นถูกใส่ร้ายยันไม่เกี่ยวคอลเซนเตอร์ จ่อฟ้องปกป้องชื่อเสียง

การเมือง
12:10
119
"เบน สมิธ" ลั่นถูกใส่ร้ายยันไม่เกี่ยวคอลเซนเตอร์ จ่อฟ้องปกป้องชื่อเสียง
"เบน สมิธ" ระบุตกเป็นเหยื่อขบวนการโจมตีเพื่อพยายามทำลายชื่อเสียง ยันไม่เกี่ยวข้องแก๊งคอลเซนเตอร์ ฟอกเงิน ชี้ประกอบอาชีพสุจริต ไม่เคยทำผิดทางอาญา ภูมิใจที่เป็นผู้อาศัยและประกอบธุรกิจในไทย พร้อมฟ้องดำเนินคดีเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง และครอบครัว

จากกรณีผู้สื่อข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ชาวแอฟริกาใต้ ซึ่งอ้างว่ามีบทบาทเป็นตัวกลางเชื่อมโยงอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา 

ขณะที่วันที่ 30 ก.ย.2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาลในประเด็นความมั่นคงเรื่องปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา โดยเปิดข้อมูลเครือข่ายสแกมเมอร์ 

โดยอ้างว่า เบน สมิธ เคยพยายามชักชวนคนไทยไปลงทุน และเชื่อมโยงเครือข่ายทุนจีนสีเทาทั้งในกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งธนาคาร bic เป็นสวรรค์ของการฟอกเงิน และมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย อีกทั้งเบน สมิธ มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง นอกจากนี้มีความพยายามจะขอสัญชาติเป็นไทย และปักหลักอยู่ประเทศไทย โดยมีการรับรองขอเปลี่ยนชื่อเป็นนายสาธิต ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เคยชี้แจงเรื่องนี้ว่าไม่อนุมัติสัญชาติเนื่องจากเอกสารไม่ครบ

ล่าสุด วันนี้ (3 ต.ค.2568) เบน สมิธ ได้ออกแถลงการณ์มีใจความโดยสรุปว่า ตลอดระยะเวลาช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวและหุ้นส่วนทางธุรกิจตกเป็นเหยื่อของกระบวนการโจมตีเพื่อพยายามทำลายชื่อเสียงโดยการกล่าวหาด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จและการกล่าวพาดพิงโดยมิได้ใช้ความระมัดระวังผ่านช่องทาง การกระทำดังกล่าวมิใช่การทำข่าวในฐานะสื่อโดยชอบธรรม แต่เป็นการโจมตีที่มีเจตนามุ่งร้ายอย่างชัดเจน มีการพยายามที่จะฉายภาพให้ประชาชนเห็นว่าตนเองเป็นอาชญากรหนีคดีและสื่อว่าความสำเร็จในชีวิตและอาชีพการงานมาจากการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซนเตอร์คำกล่าวอ้างดังกล่าวไม่มีมูลความจริงหรือหลักฐานใด ๆ 

ไม่เคยเป็นผู้ทำความผิดทางอาญาหรือเป็นอาชญากรหนีคดีตามที่มีการกล่าวอ้างอย่างผิดๆ การกล่าวหาทั้งหมดมิได้มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะคดีที่ประเทศ New Zealand ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ตนเริ่มทำงานนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สืบสวนสอบสวนแล้วและได้ข้อสรุปแล้วว่าไม่ใช่เป็นการกระทำความผิดทางอาญา ในบรรดาข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จทั้งหลาย ข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุดได้แก่ข้อกล่าวหาที่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการฟอกเงิน แก๊งคอลเซนเตอร์ และการค้ามนุษย์ในประเทศกัมพูชา

"ผมขอยืนยันว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องที่ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น ไม่ว่าทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตข้อกล่าวหาที่พยายามเชื่อมโยงผมกับประเด็นด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรืออาชญากรรมคอลเซนเตอร์ ตลอดจนประเด็นด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและประเทศกัมพูชานั้น ก็เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงเช่นเดียวกัน"

ส่วนกรณีเกี่ยวการเสนอขายหุ้นของ Tiantian Ventures ซึ่งได้มีการตรวจสอบโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) นั้น ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Tiantian Ventures บุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายต่าง ๆ ตามที่ปรากฏในสื่อไม่ใช่ตนเอง และไม่ใช่บุคคลที่ถูกกล่าวโทษโดยสำนักงาน ก.ล.ต. เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใดข้อกล่าวหาทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นความเท็จ ขาดข้อเท็จจริงรองรับ และมีเจตนาเพื่อก่อให้เกิดความสับสนแก่สาธารณชน

ในวันนี้ ผม ครอบครัวของผม และกิจการของผมกำลังตกเป็นเหยื่อทางการเมืองที่มีการใช้วิธีการที่สกปรกเพื่อที่จะโจมตีบุคคลอื่นโดยมีผม ครอบครัวของผม และกิจการของผมเป็นเครื่องมือ

ทั้งนี้ เบน สมิธ ยืนยันว่าเป็นพลเมืองที่เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายของทุก ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พักอาศัย เดินทาง หรือทำธุรกิจ และรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เป็นผู้อาศัยและประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ด้วยความรับผิดชอบ และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการประวัติการทำงานและพฤติกรรมสะท้อนให้เห็นว่าผมเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความรับผิดชอบ

การดำเนินการดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของกระบวนการใส่ร้ายป้ายสีโดยในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อมวลชนต่างประเทศได้เผยแพร่ข้อความกว่า 130 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เป็นการมุ่งโจมตีผมอย่างต่อเนื่องแทนที่จะเป็นการรายงานข่าวในลักษณะเชิงสืบสวน การรายงานข่าวในลักษณะเช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงลักษณะของกระบวนการโจมตีเพื่อทำลายชื่อเสียง ซึ่งปราศจากหลักฐานที่เป็นรูปธรรมใด ๆ รองรับโดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ได้นำหนังสือเดินทางซึ่งเป็นเอกสารส่วนบุคคลไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและอาจทำให้เสี่ยงอาจถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลหรือมีการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในทางมิชอบ นอกจากนี้ได้อ้างอิงถึงข้อมูลที่มีการแต่งเติมจากสื่อสังคมของบุคคลที่น่าสงสัย ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการจัดทำขึ้นเพื่อเติมแต่งข้อกล่าวอ้างที่หมิ่นประมาทให้แพร่หลาย และเป็นการจงใจใช้สื่อดิจิทัลในทางที่ผิดโดยแสร้งว่าเป็นการทำไปเพื่อประโยชน์ของมวลชน

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงได้เริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำต่อหน้าศาลยุติธรรมที่ซึ่งความจริงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ทั้งนี้ขอร้องให้องค์กรสื่อที่เกี่ยวข้อง เช่น ICIJ และ OCCRP ช่วยกันตรวจสอบกลไกการทำงานและบุคคลผู้ให้การสนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการให้ร้ายป้ายสีดังกล่าวเพื่อเปิดโปงให้เห็นว่าข่าวเท็จและการคุกคามถูกปลอมแปลงให้ดูเหมือนการรายงานข่าวอย่างไร ย่อมจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการสื่อสารมวลชนในช่วงเวลาที่ความน่าเชื่อถือของสื่อกำลังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

"ท้ายนี้ ผม ครอบครัวของผม และกิจการของผมใคร่ร้องขอความเป็นธรรมต่อประชาชนและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชนต่าง ๆ ให้ช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงและคัดกรองข้อมูลก่อนที่จะมีการส่งต่อหรือนำเสนอต่อประชาชน สุดท้ายนี้ เพื่อเป็นการปกป้องผม ครอบครัวของผม และกิจการของผม ผมขอแจ้งว่าหากยังคงมีการกระทำที่เป็นการคุกคามผม ครอบครัวของผม และกิจการของผม ต่อไป ผมขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีเพื่อปกป้องชื่อเสียงและผลประโยชน์ของผม ครอบครัวของผม และกิจการของผมต่อไป"

อ่านข่าว :

"รังสิมันต์" เปิดข้อมูลเครือข่ายสแกมเมอร์ เชื่อมโยงนักการเมืองไทย

รมว.ยุติธรรมสั่งพิจารณาคำขออภัยโทษ "ทักษิณ" ใหม่

“ผบ.ทบ.” เซ็นตั้ง “พล.ท.บุญสิน” เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง