ให้เหตุผลเพื่อการเริ่มต้น “ยกเครื่อง” พรรคเพื่อไทย ดังที่ได้ประกาศไว้ เมื่อ 7 ต.ค.2568 พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องยกเครื่อง พลิกโฉม เปลี่ยนโครงสร้าง กระบวนการ และวิธีคิดใหม่ เพื่อให้ชนะเลือกตั้ง แล้วไป “ยกเครื่อง” พลิกฟื้นประเทศ
จึงเลือกลาออกจากหัวหน้าพรรค เปิดโอกาสให้พรรคยกเครื่องได้อย่างอิสระ สร้างพรรคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อ่านข่าว : "แพทองธาร" แจงลาออก หน.เพื่อไทย เปิดทางพรรคยกเครื่องสู้เลือกตั้ง
ถือเป็นคำชี้แจงอย่างเป็นกิจจะลักษณะและดูดี เพราะในความเป็นจริงต่างทราบกันดีว่า น.ส.แพทองธาร ไปต่อได้ยาก จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน
ทั้งมีดาบ 2 จ่อถูกตัดสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้ง รออยู่ ทั้งยังอาจบานปลายไปถึงยุบพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค
ความจริง สัญญาณที่ไม่สู่ดี ยังเกี่ยวโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร ต้องเข้าเรือนจำรับโทษจริง 1 ปี หลังได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ ทำให้เป้าหมายกลับคืนเป็นพรรคยอดนิยมอีกครั้ง โดยใช้นายทักษิณเป็นตัวช่วย ต้องพังครืนลง ท่ามกลางการผงาดขึ้นมาแทนที่ของพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล
เซียนการเมือง “เหยียบเมฆ” อย่างนายทักษิณ มีหรือจะไม่รู้ หรือประเมินไม่ออก จึงได้หลากหลายกลยุทธ์ตามมา ไม่ว่าจะการไปปรากฏตัวและให้กำลังใจถึงที่ประชุม สส.ของพรรคของ “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ณ ป้อมเพชร หรือการโยนหินถามทาง เปิดชื่อนายณัฐพงษ์ คุณากรวงศ์ เขยใหญ่
หรือการมอบตำแหน่งผู้อำนวยการเลือกตั้ง สส.ให้กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อซื้อใจและ”ล็อคคอ” ไว้ในที กระทั่งความพยายามขอรับพระราชทานอภัยโทษรอบใหม่ หรือเรื่องอาสาทำสาธารณประโยชน์นอกเรือนจำ ขอออกไปทำงานขุดลอกท่อ ซึ่งจะสามารถแย่งชิงข่าวพื้นที่บนหน้าสื่อ และดึงดูดคะแนนสงสารเห็นใจได้
ระหว่างนี้ พรรคเพื่อไทยจึงเป็นต้องพยายามปรับทัพใหญ่ ตั้งแต่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ไปถึงแคนดิเดทนายกฯของพรรค ซึ่งต้อง “ปัง” และสร้างหลักประกันให้ได้ว่า พรรคยังมี “ของดี”

นายปิฏก สุขสวัสดิ์ สามีแพทองธาร ชินวัตร
นายปิฏก สุขสวัสดิ์ สามีแพทองธาร ชินวัตร
กรณีแคนดิเดตนายกฯ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยใส่ “เต็มแมค” ครบทั้ง 3 คน และอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ดังที่ น.ส.แพทองธาร ได้พูดไว้
หากดูจากที่ผ่านมา แคนดิเดตอันดับ 1 น่าจะยังคงเป็นคนวงใน แต่อาจไม่จำกัดวงเฉพาะตระกูลชินวัตร แต่อาจเป็นตระกูลอื่นที่เกี่ยวดอง หรือถือเป็นว่านเครือ ดังที่เคยมีชื่อนายณัฐพงษ์ หรือแม้แต่ “เขยเล็ก” อย่างนายปิฏก สุขสวัสดิ์ ก็ไปร่วมในวันจัดอีเวนต์ใหญ่ “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศ”
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ทายาท “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อย่าง ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ก็อยู่ในข่าย
คนที่ 2 ในสายตากูรูการเมือง น่าจะเป็นคนนอกที่มีต้นทุนทางชื่อเสียงและความสามารถเป็นที่ยอมรับเหมือนนายเศรษฐา ทวีสิน ที่โดดเด่นจากการบริหารกิจการ “แสนสิริกรุ๊ป”
ส่วนคนที่ 3 อาจเป็นคนในพรรคที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ต่อการมีส่วนร่วมในเชิงการเมืองหรือกิจกรรมของพรรค ส่งเสริมสนับสนุนดูแล สส.หรือ คนในพรรค ซึ่งมีชื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนเก่าคนแก่ และขึ้นชื่อเรื่อง “ใจถึงพึ่งได้”
การชิงลาออกจากหัวหน้าพรรค ซึ่งจะมีผลให้กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะต้องสิ้นสุดลงด้วย จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของ “การยกเครื่อง” พรรคเพื่อไทย ดังที่ น.ส.แพทองธาร ระบุถึง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ชูศักดิ์" รักษาการหัวหน้า "เพื่อไทย" เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ 31 ต.ค.
"สุริยะ" ปัดบีบ "แพทองธาร" ลาออก แย้มหัวหน้าเพื่อไทยคนใหม่ไม่ใช่ชินวัตร