วันนี้ (22 ต.ค.2568) กระทรวงเพื่อการปกป้องแรงงานอพยพอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ชาวอินโดนีเซีย 110 คน ซึ่งมีทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชา ทั้งหมดปลอดภัย และถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์กักตัวตรวจคนเข้าเมืองพนมเปญ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเก็บข้อมูลและตรวจสอบประวัติ ซึ่งแต่ละคนอาศัยอยู่ในกัมพูชามานานตั้งแต่ 2 เดือน จนถึง 2 ปี
ผู้อำนวยการกองปกป้องพลเมืองของกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ระบุว่า ทางการได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย และอำนวยความสะดวกในการส่งตัวชาวอินโดนีเซีย 97 คน กลับประเทศ พร้อมทั้งร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียในกรุงพนมเปญ ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าผู้ที่ถูกควบคุมตัวอย่างน้อย 4 คน มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรม
ชาวอินโดนีเซียกลุ่มนี้หลบหนีออกมาจากศูนย์สแกมเมอร์ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. หลังมีรายงานเกิดเหตุจลาจลที่ศูนย์ดังกล่าว โดยตามรายงานของสื่อ ชี้ว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้วของเดือน ต.ค.นี้ ที่เกิดเหตุจลาจลในลักษณะนี้ที่กัมพูชา ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นที่จังหวัดพระสีหนุ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.
กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ยอมรับว่า ธุรกิจหลอกลวงออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนน่ากังวลอย่างมาก โดยมีชาวอินโดนีเซียเป็นทั้งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุ นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา มีชาวอินโดนีเซียเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าวมากกว่า 10,000 คน ใน 10 ประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ยังระบุว่า ในช่วงแรก ๆ พบฐานปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา และค่อย ๆ ขยายไปยัง 7 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในจำนวนนี้มีเมียนมา ลาว และเวียดนาม รวมอยู่ด้วย ก่อนที่จะแผ่ขยายไปนอกภูมิภาค ใน 3 ประเทศหลัก ได้แก่ แอฟริกาใต้ เบลารุส และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE
เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ยอมรับว่า ในหลายกรณีชาวอินโดนีเซียก็เลือกที่จะเดินเข้าไปร่วมกับขบวนการ หรือตัดสินใจกลับเข้าสู่วังวนของสแกมเมอร์ด้วยตัวเอง เพราะเหตุผลเรื่องเงินเป็นหลัก ทั้ง ๆ ที่ถูกช่วยเหลือออกมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยอินโดนีเซียเป็นเพียงหนึ่งในหลายสิบชาติทั่วโลก ที่มีพลเมืองตกเป็นผู้เสียหายจากสแกมเมอร์
ข้อมูลจากคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ของกัมพูชา ชี้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. จนถึงเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กัมพูชาบุกทลายฐานสแกมเมอร์ 92 แห่ง ใน 18 เมืองและจังหวัดทั่วประเทศ โดยควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3,455 คน จาก 21 ชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย รวมกันตัวเลขเกินครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ขณะที่ชาวไทยและเกาหลีใต้ตกเป็นผู้เสียหายหลายสิบคนด้วยกัน
ในวันนี้ ยังมีรายงานชุดหนึ่งที่น่าสนใจ "คิม คอน" สส.พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ เปิดเผยข้อมูลที่อ้างว่าได้รับมาจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ว่า นับจนถึงเดือน ก.ย.มีรายงานแจ้งเหตุชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวในประเทศไทย รวม 11 กรณี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2565 มีการแจ้งเหตุ 1 กรณี ขณะที่ในปี 2566 และปี 2567 มีผู้แจ้งเหตุลักพาตัวเข้ามาปีละ 5 กรณี
สส.เกาหลีใต้ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดทำระบบความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้กับหลาย ๆ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่เพียงกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงไทยและประเทศอื่น ๆ เพื่อปกป้องชาวเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลยกระดับการเฝ้าระวังการโฆษณาจ้างงานผิดกฎหมายที่ล่อลวงผู้เสียหายมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
อ่านข่าว : เลื่อนพบกันที่ฮังการี "ทรัมป์-ปูติน" ยังไม่มีแผนประชุมสุดยอด
"เกาหลีเหนือ" ทดสอบยิงขีปนาวุธ ก่อนเกาหลีใต้จัดประชุม APEC
"ทรัมป์" สั่งรื้อปีกตะวันออกทำเนียบขาว เตรียมสร้างห้องบอลรูมใหม่
แท็กที่เกี่ยวข้อง: