ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"พล.อ.ณัฐพล" ชี้​ "ไทย​ -​กัมพูชา" ดีเดย์​ถอนอาวุธเชิงสัญลักษณ์​ 26 ต.ค.​68

การเมือง
12:57
200
"พล.อ.ณัฐพล" ชี้​ "ไทย​ -​กัมพูชา" ดีเดย์​ถอนอาวุธเชิงสัญลักษณ์​ 26 ต.ค.​68
อ่านให้ฟัง
04:39อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พล.อ.ณัฐพล" ​เผย "ไทย​ - ​กัมพูชา" ดีเดย์​ถอนอาวุธเชิงสัญลักษณ์ วัน​ 26 ต.ค.​68 เป็นจุดเริ่ม​ต้น วางไทม์ไลน์​ 6 สัปดาห์​ 3 เฟส​ รอทัพภาค ​2 ถก "กัมพูชา" พร้อมกำหนดกรอบ​ AOT ทำงาน​ 3 เดือน​ บรรลุ​ 3 เรื่อง​ ลุยพิสูจน์​ปราสาทตาควายดงทุ่นระเบิด​

วันนี้ (28 ต.ค.2568) เมื่อเวลา​ 11.50 น. พล.อ.ณัฐพล​ นาคพาณิชย์​ รมว.กลาโหม​ กล่าวถึงการถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนไทย​ - กัมพูชา ว่า หากนับเวลาตั้งแต่มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป​ (GBC) เมื่อวันที่​ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา​ และในวันที่ 26 ต.ค. นายอนุทิน​ ชาญ​วีรกูล​ นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามปฏิญญาเพื่อนำไปสู่สันติภาพ​ ช่วงค่ำของวันที่ 26 ต.ค.ก็มีการเริ่มถอนอาวุธ​ ซึ่งอาวุธของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ถอนออกมาไม่เหมือนกัน

ขณะนี้กองทัพภาคที่​ 2​ อยู่ระหว่างการพูดคุยในรายละเอียดกับกัมพูชา​ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ก.กลาโหม ยึดมั่นในอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญจะไม่ยอมให้ไทยเสียศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า ไทยก็มีการถอนอาวุธในช่วงค่ำวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมาใช่หรือไม่ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่า​ ใช่

ส่วน เครื่องยิงจรวด BM 21 ที่ไทยคาดหวังให้กัมพูชาถอนออกไปเนื่องจากเป็นอาวุธที่อันตรายนั้น พล.อ.ณัฐพล​ ระบุว่า ถือเป็นสิ่งที่อยากให้กัมพูชาได้ดำเนินการถอนซึ่งตามแผนการปฏิบัติการ ได้กำหนดกรอบเวลาเอาไว้ 6 สัปดาห์ หรือราว 1 เดือนครึ่ง หรืออาจจะมากกว่านั้น และกัมพูชาก็เห็นพ้อง

ทั้งนี้การดำเนินการจะมีอยู่ 3 เฟส คือ เริ่มทันทีในคืนวันที่ 26 ต.ค.2568​ ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มภายใน 3 สัปดาห์​ และเฟสที่​ 3 คือ​ สัปดาห์ที่​ 6 ซึ่งจะมีการแบ่งการถอนอาวุธเป็นล็อต​ ส่วนแต่ละล็อตจะถอนอาวุธอะไรบ้างนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุย และต้องถอนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเฟสไหนก็ตาม

เมื่อถามถึงการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ใช้กรอบการทำงานระยะเวลาเท่าใด พล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า ประมาณ 3 เดือน และสามารถต่อได้อีก​ ซึ่งคาดว่า ในห้วงเวลาดังกล่าวสามารถเห็นผลได้ใน 3 เรื่อง ทั้งถอนอาวุธหนัก​

ทั้งนี้ เก็บกู้วัตถุระเบิด​ตามแนวชายแดน ในส่วนของบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว​ อ.โคกสูง​ จ.สระแก้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จ​ในวันที่ 17 ธ.ค.2568​ รวมถึงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มดำเนินการอยู่ ซึ่งก็เริ่มทำแผนการดำเนินการ​ ส่งไปยังกัมพูชา​

พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า วันที่​ 26 ต.ค.​ที่ผ่านมา ถือเป็นวันดีเดย์ อาวุธอะไรที่เริ่มถอนได้ก็ให้ถอน แม้จะเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้น เราก็ติดตามความคืบหน้าไป ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ขอนายกฯ ตั้งคณะทำงานในเรื่องนี้ โดยมี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์​ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธาน​ และมีหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ​ สภาความมั่นคงแห่งชาติ​ และกระทรวงมหาดไทยร่วม ขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนสบายใจ

ขณะเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล​ ยังระบุอีกว่า​ เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดหากอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้เก็บกู้ทุ่นระเบิด

เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ฝ่ายกัมพูชาจะเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ เช่นในพื้นที่ปราสาทตาควายและพื้นที่โดยรอบ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า​ คณะ AOT ต้องลงไปดู ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ว่ามีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจริงหรือไม่ โดยเบื้องต้นเริ่ม 13 พื้นที่

อ่านข่าว : เปิดถ้อยแถลงผลพบหารือ "อนุทิน-ฮุน มาเนต" ลงนามความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 

"อนุทิน" ถึงไทย หลังร่วมลงนามปฏิญญาไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซีย 

ทภ.1 ยืนยันไม่มีสั่งเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาที่สระแก้ว