วันนี้ (28 ต.ค.68) การประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคน 1 เป็นประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาเรื่องใหม่ ในวาระการรายงานผลปฏิบัติงานประจำปี 2567 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) นำโดยนพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. และคณะผู้บริหารร่วมรายงานต่อวุฒิสภา
นพ.โกมาตร รายงานผลปฏิบัติงานสาระสำคัญว่า ไทยพีบีเอสเป็นสื่อสาธารณะ จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยปี 2551 ดำเนินงานเป้าหมายสนับสนุนการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม บนพื้นฐานของความเป็นไทย บริการข่าวสารเที่ยงตรงรอบด้านสมดุล ภายใต้หลักจรรยาบรรณ โดยปราศจากอคติทางการเมืองและผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ และดำเนินภารกิจย่างเข้าสู่ปีที่ 18 ตลอดที่ผ่านมายังคงทำหน้าที่ด้วยการรักษาหลักการและจรรยาบรรณในการเป็นสื่อสาธารณะที่ยึดโยงกับประชาชน
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.
โดยหยิบยกความท้าทาย 3 ประการ ที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ 1.การเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อ 2.สังคมออนไลน์ถูกขับเคลื่อนด้วยความนิยมอารมณ์ความรู้สึก จากการกดไลก์หรือถูกใจ ทำให้เกิดการไม่ยอมรับความเห็นต่าง ที่นำไปสู่ความขัดแย้งและรุนแรงสื่อสาธารณะจึงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอข่าวที่เที่ยงตรงรอบด้าน 3. การแพร่ระบาดของข่าวเท็จ สแกมเมอร์ การหลอกลวงต้มตุ๋นจากคอลเซนเตอร์ รวมถึงสื่อมิจฉาชีพ แสวงประโยชน์จากเหยื่อที่รู้ไม่เท่าทัน
อ่านข่าว : "ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา
การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อจึงเป็นความท้าทายของสื่อสาธารณะ ของไทยพีบีเอส ที่มีภารกิจตามกฎหมายในการทำหน้าที่สื่อสารสร้างสังคมคุณภาพ คุณธรรม และสร้างสรรค์สังคมประชาธิปไตย ดังนั้นภารกิจของไทยพีบีเอส นอกจากเป็นเสาหลักการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะแล้ว ยังมีภารกิจในการต่อสู้เพื่ออธิปไตยด้านการสื่อสารของประเทศไทยอีกด้วย เชื่อว่าหลังจากนี้สังคมจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของไทยพีบีเอสทั้งบริการและประสิทธิภาพในการบริหารงาน
"ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ส.ส.ท. จัดกระบวนการสรรหาผู้บริหารองค์การ ส.ส.ท. ขึ้นเนื่องจากผู้บริหารชุดที่ผ่านมาหมดภารกิจตามวาระ กระบวนการสรรหาได้รับการกล่าวขานว่าเป็นต้นแบบของการสรรหาผู้บริหารหน่วยงานรัฐ ที่เปิดกว้างสร้างการมีส่วนร่วม โดยมีผู้สมัครเข้ารับการสรรหามาก 23 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจและความเชื่อถือที่ผู้มาสมัครเห็นว่ากระบวนการสรรหายังความเป็นธรรม" นพ.โกมาตรกล่าว
นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.รายงานประจำปี 2567 ว่า ประการแรก ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติขึ้นในสังคมไทย ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือความมั่นคงทางการเมือง สิ่งที่ถูกจัดอันดับ คือ ข้อเท็จจริงและความน่าเชื่อถือ ทำให้ไทยพีบีเอสยืนหยัดที่จะเสนอข่าวถูกต้องรอบด้านเป็นกลาง มุ่งเน้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงและลดอคติ อิทธิพลจากภาคการเมืองและธุรกิจ ภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรมและวิชาชีพ เป็นที่พึ่งในยามวิกฤตที่ประชาชนจะคำนึงถึงไทยพีบีเอสเป็นสื่อแรก
นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
ปี 2567 เกิดวิกฤติน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไทยพีบีเอสส่งทีมงานเกาะติดสถานการณ์รายงานอย่างทันท่วงที ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยเฉพาะการหาสาเหตุน้ำท่วมดินถล่มครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนสืบได้ว่ามาจากปัญหาความเกี่ยวพันจากการทำลายป่าและปัญหาชายแดนเมียนมา เพื่อสะท้อนว่า ปัญหาการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งยังมีการถอดบทเรียนนำไปสู่การจัดทำสมุดปกขาวเพื่อเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย ต่อผู้บริหาร จ.เชียงราย ในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ
และยังหยิบยกวิกฤตชายแดน ไทย-กัมพูชา ไทยพีเอสเป็นสื่อกลางที่นำเสนอข่าวรอบด้าน เพื่อลดบรรยากาศกระแสชาตินิยมที่รุนแรง การสร้างความเกลียดชัง เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา เพื่อที่จะชี้เห็นว่า ราคาที่มนุษย์ต้องจ่ายจากปัญหาความขัดแย้งมหาศาลเพียงใด มีการเสนอข่าว 4 ชิ้นงาน คือ ความสูญเสียจากสงครามต้นทุนที่ต้องจ่าย-ลมหายใจที่ชายแดน-ชีวิตที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้งแต่จะเหมือนเดิมหรือไม่-คนไทยตื่นตัวแบบไหนในยุคขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน -เศรษฐกิจช็อกชายแดนสะเทือนหนักจากความขัดแย้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักการเสนอข่าวรอบด้านและไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดความเกลียดชังไม่ว่าจะเป็นในประเทศเพื่อนบ้านหรือ ภายในประเทศไทยเอง
ขณะเดียวกันมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยทางพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเจ้าแรกๆ นอกจากนี้สิ่งที่ไทยพีเอสได้ดำเนินการในมิติด้านการเมือง คือ การเกาะติดการเลือกตั้ง อบจ.2568 ซึ่งไทยพีบีเอสมีจุดเด่นใช้ข้อมูลที่เป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด ทำให้เกิดการตื่นตัวการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ไทยพีบีเอสได้เกาะติดเรื่องปัญหาชาติพันธุ์มายาวนาน จนกระทั่งทางรัฐสภาให้ความเห็นชอบผ่านกฎหมายชาติพันธุ์และมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งมีกว่า 60 กลุ่ม ในประเทศไทย และยังสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเด็นแม่น้ำกก ที่เกิดปัญหามลพิษวิกฤตการณ์สารปนเปื้อน เสนอข่าวเชิงลึก 369 ชิ้นกระตุ้นให้หลายหน่วยงานหันมาสนใจปัญหาของประชาชนที่เผชิญกับปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำ แต่เรื่องที่ภูมิใจและนำเสนอมาอย่างต่อเนื่องจนได้รับรางวัล คือ รายการข่าวค่ำเกี่ยวกับกรณีการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นข่าวสืบสวนชั้นยอดของไทยพีบีเอส ด้วยไม่มีสำนักข่าวอื่นไม่กล้าที่จะเจาะลึกเพราะกระทบกับนายทุนใหญ่
ไทยพีบีเอสยังได้พัฒนาการใช้ AI มามีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีการนำเสนอ โดยเฉพาะหัวใจสำคัญในการ นำเสนอปัญหาเฟกนิวส์หรือข่าวปลอมใน ThaiPBS Verify ขณะเดียวกันในการสื่อสารยังทำให้ผู้บกพร่องการได้ยินสามารถเข้าใจข่าวสารมากขึ้น ซึ่งสัดส่วนรายการเด็กและเยาวชนมีมากถึงร้อยละ 71 มากกว่าสื่ออื่น
พร้อมกับหยิบยกผลสำรวจสื่อไทยในปี 2025 ที่พบว่า ไทยพีบีเอสมีความน่าเชื่อถือสูงถึงร้อยละ 72 อยู่ในอันดับ3 สะท้อนได้ว่า มาตรฐานการนำเสนอข่าวของไทยพีเอสได้รับการยอมรับ และปีที่ผ่านมายังได้รับรางวัลมากถึง 50 รางวัล เป็นรางวัลระดับนานาชาติ รางวัลสื่อดิจิทัลยอดเยี่ยม และรางวัลที่สำคัญจากองค์กรสื่อต่างประเทศ และรางวัลต่าง ๆ อีกมากมาย
โดยรายงานที่ปรากฏประจำปี 2567 และการแสดงผลประเมินด้านความคุ้มค่าการใช้เงินภาษีในมิติผลลัพธ์ทางสังคม การเข้าถึงกลุ่มประชาชนและการบริหารจัดการงบประมาณสมดุลปี 2568 เป็นไปตามแผนที่ได้วาง ควบคู่กับการพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ที่สนองต่อความหลากหลายของกลุ่มประชาชน ซึ่งภารกิจสำคัญของสื่อสาธารณะ คือ การผลิตสื่อเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กลดช่องว่างการตลาดอุตสาหกรรมสื่อ
จึงมีความภูมิใจที่อยู่ในความสำเร็จนี้ และทีมไทยเอสทุกคนตระหนักเสมอว่าจะยังคงพยายามต่อไปเพื่อจะสร้างสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม จากนี้เป็นต้นไปก้าวต่อไปของไทยพีบีเอส จะทำซีรี่ส์เกี่ยวกับปัญหาคอรัปชันซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย และวางเป้าหมายในอนาคตจะเป็น OTT Nationnal Platfrom แห่งชาติ สุดท้ายไทยพีเอสพร้อมกับการเลือกตั้งในปี 2569 ที่จะถึงนี้
อ่านข่าว : "ไทยพีบีเอส" ชี้แจงสภาฯ ผลปฏิบัติงานปี 66 - ตอบข้อซักถาม สส.
"วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์" ได้รับการคัดเลือกดำรงตำแหน่ง ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่
สำรวจสื่อไทย 2025 ไทยพีบีเอส น่าเชื่อถือสูง 72%