ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไต้หวันจับผู้ต้องสงสัย-อายัดทรัพย์เอี่ยว "ปรินซ์ กรุ๊ป"

ต่างประเทศ
06:54
115
ไต้หวันจับผู้ต้องสงสัย-อายัดทรัพย์เอี่ยว "ปรินซ์ กรุ๊ป"
"ไต้หวัน" จับกุมผู้ต้องสงสัย 25 คน และอายัดทรัพย์กว่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เชื่อมโยงกับ Prince Group กลุ่มธุรกิจในกัมพูชาของ เฉิน จื้อ ขณะที่ "จีน" ตัดสินประหารชีวิตหัวหน้าขบวนการ 5 คน ที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการหลอกลวงในเมียนมา

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2568 คณะสอบสวนไต้หวัน สังกัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้จับกุมบุคคล 25 คน และอายัดทรัพย์มูลค่ากว่า 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เชื่อมโยงกับ Prince Group กลุ่มธุรกิจในกัมพูชาของ เฉิน จื้อ โดยเจ้าหน้าที่บุกค้นสถานที่ 47 จุด รวมถึงบ้านพักของสมาชิกระดับสูงของกลุ่มธุรกิจดังกล่าว

การตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดอสังหาริมทรัพย์ได้ 18 แห่ง ประกอบไปด้วยห้องพัก 11 แห่งในย่านหรู รถหรู 26 คัน และบัญชีธนาคารหลายสิบบัญชี ซึ่งมีเงินฝากรวมกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 4.7 พันล้านบาท

อัยการไต้หวัน ระบุว่า ทรัพย์สินของขบวนการนี้ที่ได้จากการหลอกลวงซึ่งมีฐานอยู่ทั่วกัมพูชาถูกแปลงเป็นสินทรัพย์ผ่านบริษัทบังหน้าและซื้อหาเป็นข้าวของหรูหรารวมถึงอสังหาฯ ไว้เพื่อปกปิดเงินที่ได้มาโดยมิชอบ

ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตำรวจสิงคโปร์เพิ่งจะอายัดทรัพย์ 115 ล้านดอลลาร์ที่พบความเชื่อมโยงกับเฉิน จื้อ ซึ่งทางการไต้หวันเคยระบุว่ามีประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปทำงานในศูนย์หลอกลวงทั้งที่เมียนมาและกัมพูชาด้วย

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเมื่อเดือนก่อน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาเฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งสหรัฐฯ ขนานนามว่าเป็นบริษัทบังหน้าขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เช่นเดียวกับที่อังกฤษคว่ำบาตรเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับเฉินจื้อเหล่านี้ โดยตั้งแต่ปี 2015 บรษัทนี้ปฏิบัติการในกว่า 30 ประเทศ โดยใช้บริษัทการเงิน อสังหาฯ และธุรกิจต่างๆ บังหน้า

จีนตัดสินประหารชีวิต 5 มาเฟียโยงขบวนการสแกมเมอร์ในเมียนมา

ศาลจีนในเซินเจิ้นตัดสินประหารชีวิตหัวหน้าขบวนการมาเฟีย 5 คน ที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการหลอกลวงในเมียนมา พร้อมตัดสินโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในจำนวนนี้มีสมาชิก "ตระกูลไป๋" ที่เป็นหัวหน้าแก๊งรวมอยู่ด้วยถึง 21 คน

ในส่วนของโทษที่หนักที่สุด ทางการจีนตัดสินให้ ไป๋ สั่วเฉิง หัวหน้าแก๊ง และ ไป๋ อิงชาง ลูกชาย รับโทษประหารชีวิต โดยสองเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ในเขตโกก้าง รัฐชาน เมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการของกลุ่มมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างกว้างขวาง

ส่วนอีก 3 คนที่ได้รับโทษประหารชีวิต คือ หยัง ลี่เฉียง, หู เสี่ยวเจียง, เฉิน กว่างอี้ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีสมาชิกตระกูลไป๋อีก 5 คนที่ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต และอีก 9 คน ได้รับโทษจำคุก ไล่ตั้งแต่ 3-20 ปี ในข้อหาต่างๆ ทั้งในคดีฉ้อโกง, ฆาตกรรม, ทำร้ายร่างกาย และอาชญากรรมอื่นควบคู่กับบทลงโทษเพิ่มเติม ทั้งปรับ ยึดทรัพย์ และเนรเทศ

ตระกูลไป๋ เป็นหนึ่งในกลุ่มมาเฟียหลักที่ขยายอิทธิพลอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 2000 ด้วยความช่วยเหลือของพลเอกอาวุโสมิน ออง ไลง์ โดยแปลงโฉมเล้าก์ก่าย ซึ่งเป็นเมืองในเขตโกก้าง ให้กลายเป็นแหล่งทำเงินมหาศาล ที่เต็มไปด้วยกาสิโนและแหล่งอบายมุขต่างๆ กระทั่งช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครือข่ายอาชญากรรมนี้ได้เปลี่ยนกลยุทธ์มามุ่งเน้นทำธุรกิจการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างรายได้ผิดกฎหมายมูลค่าหลายพันล้าน

โดยในการปฏิบัติการฉ้อโกงนี้มีเหยื่อที่ถูกค้ามนุษย์หลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน ถูกกักขัง ทำร้าย และบังคับให้ฉ้อโกงเหยื่อรายอื่นๆ และยังมีคนจีนเสียชีวิต 6 คน มีผู้ที่จบชีวิตตัวเอง 1 คน และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางการจีนระบุว่า ตระกูลไป๋ยังตั้งศูนย์หลอกลวงและกาสิโนถึง 41 แห่ง สร้างรายได้ 2.9 หมื่นล้านหยวน หรือกว่า 1.34 แสนล้านบาท

การตัดสินประหารชีวิตในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของทางการจีนในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ละเมิดสิทธิและก่อความเสียหายต่อพลเมืองอย่างรุนแรง 

อ่านข่าว : ทบ.แจงเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยง-ค่าตอบแทน-ระเบียบหักค่าใช้จ่าย "ทหารเกณฑ์"

วันลอยกระทง 2568 แจกพิกัดงานลอยกระทง ทั่วไทย

ผ่าองค์กรอาชญากรรมจีนข้ามชาติ "เงาปีศาจ" บงการธุรกิจมืด