ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดักเก็บความหวัง “พท.” สู้ศึกเลือกตั้ง69 พลิกฟ้อง“ทักษิณ” คดี 112

การเมือง
18:17
296
ดักเก็บความหวัง “พท.” สู้ศึกเลือกตั้ง69 พลิกฟ้อง“ทักษิณ” คดี 112

เป็นเวลา 3 เดือนแล้วที่ “ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ได้รับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี จากคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ แม้ยังมีความหวัง อาจได้รับการพักโทษ เนื่องจากเข้าเงื่อนไขผู้ต้องหาสูงอายุ แต่เมื่ออัยการยื่นอุทธรณ์คดี 112 ต่อศาลอุทธรณ์ จึงไม่ต่างจาก “เพื่อไทย”ถูกดักเก็บฝันในการเลือกตั้งปี 2569

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมานอกจากคนในครอบครัวตระกูลชินวัตรที่เดินทางเข้าเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังมี “คนเสื้อแดง” บางกลุ่ม และเพื่อนเก่าของอดีตนายกฯ ที่ยังเดินทางมาให้กำลังใจ ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยอย่างสม่ำเสมอ แม้ “ทักษิณ” จะอยู่ในเรือนจำฯ แต่การขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ยังคงดำเนินต่อ

“แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลฎีกาฯตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งฯจาก คลิปเสียง “ลุง-หลาน” เปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย สลับให้ “จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรคฯ แต่สถานการณ์ของเพื่อไทยก็ยังไม่ขยับ

จากการสำรวจของนิด้าโพล ครั้งล่าสุดถูกพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยทิ้งห่าง แม้ตัวเลขอีก 36 กว่าเปอร์เซ็นต์จะยังไม่ตัดสินใจเลือกใครก็ตาม แต่คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยที่หล่นไปอยู่อันดับที่ 6 นั้นก็น่าตระหนกไม่น้อย

และเพื่อไทยวันนี้เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “อิทธิพร แก้วทิพย์” อัยการสูงสุด ได้มีความความเห็นว่าการกระทำของ “ทักษิณ” อดีตนายกรัฐมนตรีตามความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 2560 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้ โดยมีเนื้อหากระทบสถาบัน

เป็นความผิดตามฟ้อง และเห็นควรที่จะยื่นอุทธรณ์คดีให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาต่อไป จากเดิมจะมีการยื่นขยายระยะวลาต่อศาลอาญาครั้งที่ 2 ถึงวันที่ 21 พ.ย.นี้

สำหรับคดีนี้ ซึ่งตามขั้นตอนคดี 112 ของ “ทักษิณ” เป็นคดีนอกราชณาจักรอำนาจพิจารณายื่นอุทธรณ์เป็นของอัยการสูงสุด การพิจารณาของคณะกรรม การพิจารณาคดี 112 จึงเป็นการกลั่นกรองให้อัยการสูงสุด ไม่ใช่การสั่งคดีเหมือนในชั้นพิจารณาคดี 112 ทั่วไป

ดังนั้น ตามขั้นตอนของกฎหมาย คำสั่งให้อุทธรณ์ของอัยการสูงสุด ให้ถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด ซึ่งจะถูกส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เจ้าของสำนวนเพื่อยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์ต่อไป

หมายความว่า อดีตนายกฯจะต้องรับโทษเต็มตามจำนวน คือ 12 เดือน หรือ 1 ปี ยังไม่สามารถใช้สิทธิยื่นขอ “พักโทษกรณีพิเศษสำหรับผู้มีอายุเกิน 70 ปีได้ เนื่องจากยังมีคดีต่อ คือ คดี 112 จึงทำให้ไม่ได้รับการพิจารณา

ปฏิกิริยาของครอบครัวชินวัตรที่ตามมา หลังอัยการยื่นอุทธรณ์ในช่วงบ่ายวันนี้ ( 17 พ.ย.2568) เมื่อ “พานทองแท้ ชินวัตร” และ “พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์” บุตรชายและบุตรสาว พร้อม “น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ” สะใภ้ตระกูลชินวัตร เดินทางเข้าเยี่ยม

“ท่านก็เสียใจ เจ็บช้ำ จากกรณีที่อัยการสูงสุดจะยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112” น.ส.พินทองทา กล่าวและว่า ส่วนมีวิธีการต่อสู้คดีอย่างไร ก็คงต้องคุยและวางแผนกัน ต้องสู้ เพราะว่าถ้าเกิดเรายังไม่ได้รับความยุติธรรม เราก็ต้องสู้ต่อ

“แต่ว่าจุดนี้ก็ยังเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกคุณพ่อ เพราะว่าท่านอยู่ในนี้ ก็ไม่ได้มีใครอยู่กับท่านเลย พวกเราก็ได้แต่ส่งกำลังใจ อันนี้มันก็เพิ่งวันนี้ ที่เราโชคดีที่ได้เข้ามาเยี่ยมคุณพ่อ ที่คุณพ่อได้เจอกับครอบครัวในวันนี้”

ขณะที่ “พานทองแท้” ยอมรับว่า ก็เป็นเรื่องที่ทำให้จิตตกพอสมควร แต่ว่าขอบคุณทุกกำลังใจที่มีกับครอบครัวเรา

วันเดียวกัน (17 พ.ย.2568)  “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” โพสต์ข้อความผ่านเฟซ บุ๊ก ระบุถึงกรณีอัยการสูงสุด มีคำสั่งให้อุทธรณ์คดี 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร หลังศาลอาญายกฟ้อง ว่า แผนสกัด “ทักษิณ” ไม่ให้ออกก่อนเลือกตั้ง

โทษจำคุก 1 ปี หรือ 12 เดือน ของทักษิณ เมื่อรับโทษครบกำหนด 1 ใน 3 คือ 4 เดือน สามารถยื่นขอ “พักโทษกรณีพิเศษสำหรับผู้มีอายุเกิน 70 ปี” อันเป็นระเบียบปกติของกรมราชทัณฑ์ โดยต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาพักโทษ และต้องอนุมัติโดยรัฐมนตรียุติธรรม

แต่หากนักโทษรายใดยังมีคดีต่อ เช่น ทักษิณอัยการยื่นอุทธรณ์คดี ม.112 จะไม่ได้รับการพิจารณา เพราะถือว่ามี “คดีต่อ” ไม่สามารถยื่นเรื่องขอพักโทษได้ นักโทษเก่ารู้กันดีเรื่องอย่างนี้

ชูวิทย์ ระบุว่า นี่คือ “แผนสกัด” ไม่ให้ทักษิณออกจากคุกก่อนเลือกตั้ง..ต้องตีตั๋วอยู่ยาวชนป้ายครบ 1 ปี มันโหดร้ายนะครับประเทศไทย เอาอิสรภาพของคนมาจำกัดเพราะอำนาจการเมือง

อย่างไรก็ตาม นอกจากคดี 112 ที่ถูกอัยการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ต่อแล้ว คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ก็อาจยังไม่จบแม้ศาลจะสั่งบังคับโทษแล้วก็ตาม แต่หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช) ชี้มูลในคดีนี้เพิ่ม อาจส่งผลให้ “ทักษิณ” ต้องรับโทษเพิ่มฐานสนับสนุนให้มีการกระทำผิดตาม มาตรา 157 หรือ สนับสนุนให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่มิชอบก็ต้องเพิ่มโทษด้วยเช่นกัน

จึงน่าจับตาทิศทางและอนาคตของพรรคเพื่อไทย ก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งในปี2569 ว่า จะดำเนินไปในทิศทางใด หาก “ทักษิณ” ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากคดีทั้งหมดได้ ความหวังและความฝันที่ถูกดักเก็บจะไปต่ออย่่างไร

 อ่านข่าว : ครอบครัวเผย "ทักษิณ" พร้อมสู้ หลัง "อสส." เตรียมยื่นอุทธรณ์คดี ม.112 

เปิดเหตุผลศาลยกฟ้อง "ทักษิณ" คดี ม.112 ชี้ไม่ได้กล่าวถึงสถาบันฯ 

โฆษกอัยการชี้ อำนาจ "อสส." อุทธรณ์คดีทักษิณ ม.112 หรือไม่