วันนี้ (1 ธ.ค.2568) หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ หรือ ครม. เศรษฐกิจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การประชุมวันนี้เน้นเรื่องเยียวยาน้ำท่วมเป็นหลัก โดยจะนำมติไปเสนอที่ประชุม ครม. ในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) เพื่อกลั่นกรองหลายเรื่องให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่าปกติ
สำหรับพื้นที่รอบนอกที่ประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว จะได้เงินเยียวยาเท่าใด นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับระดับภัยและขั้นตอน ตอนนี้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลืออุทกภัยใน 5 จังหวัดภาคใต้ โดยพยายามใช้หลักการเดียวกันทั้งหมด เพื่อความเป็นธรรม
ส่วนการเตรียมเอกสารรับเงินเยียวยาที่หลายคนบ่นว่ายุ่งยาก นายอนุทิน ยืนยันว่าสั่งแก้ไขแล้ว ไม่มีอะไรยุ่งยาก ตอนนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งบัญชาการสถานการณ์ในพื้นที่ โดยยอมรับว่ามีหน่วยสนับสนุนเยอะ เพราะ ผวจ.สงขลา รับผิดชอบทุกด้านก่อนลงพื้นที่ช่วยเหลือ จึงต้องแบ่งเบาภาระเพราะสถานการณ์รุนแรง อธิบดีหลายคนจากกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ช่วยเร่งแก้ปัญหา
โดยเฉพาะการสำรวจความเสียหายและโอนเงินเยียวยา ซึ่งตอนนี้โอนเงินลงพื้นที่แล้ว สำหรับบ้านเช่า ผู้เช่าที่ผู้นำชุมชนรับรอง ก็จะได้เงินเยียวยา และเจ้าของบ้านก็ได้สิทธิ์ค่าตอบแทนบ้านตามระเบียบ ปภ. ซึ่งครอบคลุมทุกภาคส่วนด้วยความห่วงใย
ทั้งนี้ การจ่ายเงิน คนละครึ่งพลัส เฟส 2 นายกฯ ยืนยันว่าไม่กระทบ และได้พูดคุยกับ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกฯ และ รมว.คลัง แล้ว เพื่อความชัดเจน
ส่วนการจัดการแข่งขันซีเกมส์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกฯ กล่าวว่า จัดไม่ได้แล้ว ช่วงเช้าได้มอบนโยบายให้ส่วนราชการเน้นการอบรม สัมมนา และประชุมในพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะที่เตรียมโรงแรมรอรับแขกช่วงสิ้นปี เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจตรงนั้น ช่วยอุดหนุนให้มีกระแสเงินสดผ่านวิกฤตไปได้ และฝากประชาชนในภาคเอกชนด้วย โดยกำหนดว่า ภายใน 14 วัน สถานการณ์ในหาดใหญ่จะกลับสู่ปกติ
สำหรับบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ จะปรับปรุงกระทรวงมหาดไทยตรงไหนบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูเรื่องการป้องกันตามกฎหมาย ซึ่งประกาศเขตภัยพิบัติได้ต่อเมื่อภัยเกิดแล้ว ทำให้ย้อนแย้ง ปภ.ทำได้แค่บรรเทา แต่การป้องกันติดขัด จึงต้องแก้ไขระเบียบและกฎหมายให้มีประสิทธิภาพในการเตือนภัยและอพยพประชาชนให้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ
ขณะที่เรื่องความเชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสาร ต้องสื่อสารและซักซ้อมให้ประชาชนเห็นและตื่นตัว โดยเข้าใจวัฒนธรรมคนไทยที่ "ติดบ้าน" น้ำท่วมชั้นล่างก็ย้ายไปชั้น 2 ชั้น 2 ก็ไปชั้น 3 และชั้น 3 ก็ขึ้นหลังคา ตนลงพื้นที่ก็เห็นชัด จึงต้องเน้นนำประชาชนที่ออกจากบ้านกลับมาโดยเร็วที่สุด เพราะทุกคนคิดถึงและห่วงบ้านเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ ต้องให้เห็นว่าต้องร่วมมือ เตรียมพร้อม และเชื่อฟัง
ระบบแจ้งเตือนภัย cell broadcast ก็บอกว่าจะมีน้ำท่วมฉับพลันและสิ่งบอกเหตุที่ถ่ายทอดไป ตอนนี้เกินกว่าจะโทษกัน ไม่มีประโยชน์ ทุกคนเป็นผู้ประสบภัย ต้องมองไปข้างหน้า เร่งแก้ไขกลับสู่ปกติให้เร็วที่สุด ผู้ปฏิบัติอย่างตนก็ต้องคิดเรื่องป้องกันประชาชนให้มากที่สุดด้วยทุกเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวเชื่อมโยงน้ำท่วมกับการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย นายกฯ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายข้าราชการ ก็ให้เชื่อมไป เขาไม่ได้ทำงาน แต่พวกตนทำงาน
อ่านข่าวอื่น :
สธ.แถลงน้ำท่วมหาดใหญ่เสียชีวิต 140 คน ส่งคืนญาติแล้ว 23 คน
น้ำท่วมใต้ เศรษฐกิจเสียหาย 5 แสนล้าน คลังเร่งอัดมาตรการเยียวยา-ฟื้นฟู