ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แพทย์เตือน "หัวใจวายเฉียบพลัน" เกิดขึ้นได้แม้ไม่มีอาการเตือน

สังคม
18:56
56
แพทย์เตือน "หัวใจวายเฉียบพลัน" เกิดขึ้นได้แม้ไม่มีอาการเตือน
ผู้เชี่ยวชาญสถาบันโรคทรวงอกเตือน "หัวใจวายเฉียบพลัน" พบมากขึ้นในคนอายุน้อย มักเกิดจากหัวใจเต้นผิดจังหวะในห้องล่างซ้าย โดยเฉพาะผู้มีประวัติญาติสายตรงเสียชีวิตกะทันหัน แนะตรวจ ECG พร้อมชี้ปัจจัยกระตุ้นมีทั้งเครียด พักผ่อนน้อย แอลกอฮอล์ บุหรี่ และ PM2.5

วันนี้ (1 ธ.ค.2568) นพ.เขตต์ ศรีประทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก ระบุว่า กรณีนักข่าวช่อง 8 เสียชีวิตระหว่างนอนหลับ เข้าข่าย "หัวใจวายเฉียบพลัน" ซึ่งมักเกิดจากหัวใจเต้นผิดจังหวะในห้องล่างซ้าย พบได้บ่อยในคนอายุน้อย และส่วนใหญ่มาจากปัจจัยพันธุกรรม คล้ายกับกรณี "วูบขณะเต้น" ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นพ.เขตต์ กล่าวว่า อาการเตือนอาจไม่มีเลย หรือมีเพียงใจสั่น ใจหวิว วูบ หรือเป็นลมง่าย แต่หลายรายจะเกิดอาการรุนแรงเฉียบพลันจนเสียชีวิตได้ จึงแนะนำให้ผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเสียชีวิตกะทันหัน เข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ทันที สำหรับประชาชนทั่วไป ควรเริ่มคัดกรองในช่วงอายุ 40–45 ปี

แม้โรคนี้จะเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม แต่ยังมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ความเครียด พักผ่อนน้อย แอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงมลพิษ PM2.5 ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันว่าเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจทั้งในระยะสั้นและยาว

สำหรับกระแสที่โยงเหตุการณ์นี้กับวัคซีนโควิด-19 นพ.เขตต์ชี้แจงว่า ผลข้างเคียงด้านหัวใจจากวัคซีนมักเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเกิดภายในระยะเวลาไม่นานหลังฉีด หากเกิดเหตุในช่วงหลายปีหลัง ต้องพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ใช่จากวัคซีน

ส่วนเรื่องการนอนกรน นพ.เขตต์ย้ำว่า หากมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย อาจทำให้หัวใจโตและนำไปสู่โรคหัวใจอื่น ๆ แต่เป็น "คนละโรค" กับภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการง่วงมากตอนกลางวัน หรือตื่นไม่สดชื่น ควรตรวจ Sleep Test

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะจากพันธุกรรมบางชนิด สามารถตรวจพบได้จากคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และปัจจุบันมีการรักษา เช่น การใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ เพื่อป้องกันภาวะรุนแรงก่อนที่จะเกิดเหตุเฉียบพลัน นพ.เขตต์กล่าวสรุปตอนท้าย

อ่านข่าวอื่น :

นายกฯ ยันงบเยียวยาน้ำท่วม "ไม่กระทบ" คนละครึ่งพลัส เฟส 2

น้ำลดภัยไม่ลด ตร.แนะนำ 5 ข้อปลอดภัย ป้องกันสูญเสียซ้ำซ้อน