วันนี้ (1 ธ.ค.2568) สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคใต้เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ช่วง "หลังน้ำลด" ยังคงมีความเสี่ยงหลากหลายที่อาจนำไปสู่ความสูญเสียเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากไฟฟ้าดูดที่เกิดจากอุปกรณ์เปียกชื้น รถยนต์ที่เสียหายหากใช้งานผิดวิธี ปัญหาสุขภาพจากโรคระบาด และมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสเข้ามาหลอกลวงหรือลักทรัพย์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จึงออกคำแนะนำเร่งด่วนเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำทันที เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเน้นการตรวจสอบอย่างละเอียดและหลีกเลี่ยงความประมาทที่อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
1.ระบบไฟฟ้า หลีกเลี่ยงไฟดูดที่อาจคร่าชีวิต
ก่อนเข้าบ้านหรือพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ต้องสวมรองเท้ายางและถุงมือแห้งทุกครั้ง เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าที่อาจไหลผ่านน้ำหรือพื้นเปียก ห้ามสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าขณะตัวเปียกเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดไฟดูดได้ทันที หากพบปลั๊กไฟ สวิตช์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่จมน้ำ อย่าเปิดคัตเอาต์หรือสะพานไฟโดยตรงเพราะเสี่ยงเกิดประกายไฟหรือลัดวงจร ให้ปลดคัตเอาต์ลงทันทีเพื่อตัดการจ่ายไฟทั้งระบบ
จากนั้นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้นที่ถูกน้ำท่วมอย่างละเอียด ห้ามเสียบปลั๊กหรือใช้งานจนกว่าจะมั่นใจว่าทุกส่วนแห้งสนิทและไม่มีร่องรอยชำรุด หากไม่แน่ใจควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจก่อเพลิงไหม้หรืออันตรายรุนแรงถึงชีวิต
2.รถยนต์-จักรยานยนต์ ป้องกันความเสียหายถาวรจากน้ำ
หากรถจมน้ำ ห้ามสตาร์ตเครื่องยนต์ทันทีเด็ดขาด เพราะน้ำที่ค้างอยู่ในเครื่องยนต์ ห้องเครื่อง หรือท่อไอเสียอาจทำให้เกิดแรงดันสูงผิดปกติ ส่งผลให้ก้านสูบหัก ระบบอิเล็กทรอนิกส์เสียหายถาวร และเครื่องยนต์พังยับเยิน ซึ่งอาจต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ทั้งระบบ
ให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อนเพื่อตัดไฟฟ้าและป้องกันการลัดวงจร จากนั้นตรวจสอบของเหลวสำคัญ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเบรก หากพบว่าน้ำมันมีสีผิดปกติคล้ายกาแฟใส่นม แสดงว่าน้ำทะลักเข้าไปผสม ทำให้เครื่องยนต์เสี่ยงเสียหายหนัก ควรหยุดใช้งานทันทีและติดต่อบริษัทประกันภัยหรือบริการรถยกเพื่อนำรถเข้าอู่ซ่อมโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินและซ่อมแซมให้กลับมาทำงานปกติโดยไม่เพิ่มความเสียหาย
3.สำรวจบ้านก่อนเข้า หลีกเลี่ยงสัตว์มีพิษกัด
สัตว์มีพิษอย่าง งู ตะขาบ หรือแมงป่อง มักหลบหนีน้ำท่วมเข้ามาซ่อนในบ้านเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนเข้าไปทำความสะอาดหรืออยู่อาศัย ให้สำรวจทุกซอกมุมอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก โต๊ะ เก้าอี้ กองวัสดุเก่า หรือพื้นที่มืดชื้นที่อาจเป็นที่หลบภัยของสัตว์เหล่านี้
ใช้ไฟฉายส่องและเคาะเบา ๆ เพื่อตรวจหาความเคลื่อนไหว หากพบสัตว์มีพิษ อย่าพยายามจับหรือฆ่าเองเพราะเสี่ยงถูกทำร้าย หากถูกสัตว์เหล่านี้กัดหรือต่อย ให้จดจำลักษณะของสัตว์ให้ได้มากที่สุด เช่น สี ขนาด รูปร่าง เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัย และรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทันทีโดยไม่ล่าช้า เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและป้องกันพิษลุกลาม
4.ป้องกันสุขภาพ หลีกเลี่ยงการติดเชื้อโรคระบาด
แม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่พื้นที่ชื้นแฉะยังคงเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคที่อาจนำไปสู่การระบาดใหญ่ เช่น โรคฉี่หนูจากเชื้อในน้ำสกปรก หรือโรคน้ำกัดเท้าจากการติดเชื้อในบาดแผล ต้องสวมรองเท้าบูทหรือรองเท้าป้องกันทุกครั้งที่เดินลุยโคลน ดินโคลน หรือพื้นเปียก เพื่อป้องกันน้ำและสิ่งสกปรกเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง
หากมีบาดแผลเก่าใหม่ ห้ามสัมผัสหรือลุยน้ำท่วมโดยตรงเพราะเสี่ยงติดเชื้อรุนแรง หลังจากสัมผัสน้ำหรือโคลนแล้ว ควรรีบล้างร่างกายด้วยน้ำสะอาดและสบู่ให้ทั่วทันที จากนั้นเช็ดให้แห้งและทายาหรือพันแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้ เจ็บกล้ามเนื้อ หรือบวมแดง รีบพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาโดยด่วน
5.ระวังมิจฉาชีพ อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าที่อ้างช่วยเหลือ
ในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม มิจฉาชีพมักปลอมตัวเป็น "พลเมืองดี" เช่น ช่างซ่อมไฟฟ้า ช่างซ่อมรถ หรืออาสาช่วยเหลือ เพื่อตระเวนตามบ้านเรือนที่ถูกทิ้งร้าง โดยหลอกให้บริการซ่อมแซมในราคาแพงเกินจริง หรือแอบเข้ามาสำรวจเพื่อลักทรัพย์มีค่าที่เหลืออยู่
ควรตรวจสอบตัวตนของบุคคลเหล่านี้ให้ชัดเจน เช่น ขอเอกสารรับรองหรือโทรยืนยันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้ามปล่อยให้คนแปลกหน้าดำเนินการซ่อมใด ๆ โดยลำพัง และแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากสงสัยพฤติกรรมน่าสงสัย เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือสูญเสียทรัพย์สินเพิ่มเติม
ท้ายนี้ หากพบสายไฟชำรุดหรือต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้า สามารถแจ้งสายด่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ 1129 ได้ หากเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร 1669 และหากพบมิจฉาชีพ เหตุด่วน หรือเหตุร้าย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
ในช่วงหลังน้ำลด ความประมาทเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่อุบัติเหตุและความเสียหายที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม ขอให้ทุกคนตรวจสอบความปลอดภัยรอบตัวอย่างละเอียด ช่วยกันระมัดระวัง แบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้อง และดูแลกันและกัน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปอย่างปลอดภัยและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
อ่านข่าวอื่น :
สตง.คลายกฎ! ใช้เลขบัตร ปชช.-เลขบัญชีธนาคาร รับเงินเยียวยา 9 พันบาท
ฟอกไตฟรี! กรมการแพทย์ช่วยผู้ป่วยไตน้ำท่วมใต้ รักษาได้ทุกสิทธิ์











