วันนี้ (6 ธ.ค.2568) พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระสุนจากการสู้รบระหว่างประเทศเมียนมาและชนกลุ่มน้อยตกในประเทศไทยในพื้นที่ชายแดนว่า การได้รับรายงานเบื้องต้น เป็นการสู้รบระหว่างรัฐบาลกลางเมียนมากับชนกลุ่มน้อย ซึ่งการปฏิบัติการทางทหารมีการยิงและเกิดความคลาดเคลื่อนของวิถีกระสุน ล่าสุดทราบว่าข้ามมายังประเทศไทย
โดยกองกำลังเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ได้ปฏิบัติตามกฎการใช้กำลังในการยิงเตือนและประสานงานในพื้นที่ใช้กลไก TBC ประสานงานกับหน่วยราชการในเมียนมา รวมไปถึงกองกำลังของชนกลุ่มน้อย เพื่อแจ้งเตือนว่าอย่าให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากกองทัพแจ้งเตือนไปในลักษณะนี้แล้ว หากมัเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำจะใช้มาตรการกฎการใช้กำลัง
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต พร้อมเตรียมการในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
สู้รบฝั่งเมียนมายังระอุ แจ้งเตือนชาวบ้านอพยพจากพื้นที่เสี่ยง
วันเดียวกัน ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 และทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร เข้าแจ้งเตือนชาวบ้านในหมู่บ้านแม่โกนเกน และบ้านห้วยมหาวงศ์ ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ให้ออกจากพื้นที่โดยด่วน หลังพื้นที่ฝั่งตรงข้ามเกิดการสู้รบระหว่าง ทหารกองทัพเมียนมา กับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU อีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ ในพื้นที่บ้านมินละป่าน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา มีเสียงปืนและระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง
การสู้รบที่บ้านมินละป่าน มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยวานนี้ มีกระสุนปืนไม่ทราบขนาดของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ล้ำแดนมาตกในชุมชนฝั่งไทย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นชายอายุ 68 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงต้องอพยพไปอาศัยอยู่กับญาติ และเพิ่งกลับเข้ามาบ้านของตัวเองเมื่อช่วงเช้าวันนี้
พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด และนายกกิ่งกาชาด อำเภอแม่สอด นำสิ่งของปลอบขวัญ ไปมอบให้แก่ภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว และมีทีมแพทย์โรงพยาบาลแม่สอด ดูแลอย่างใกล้ชิดจาก
ด้าน นายพาโด้ซอ ตานี โฆษกกองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นยู. กล่าวเรียกร้องให้ทหารเมียนมาหยุดยิงทันที และ เคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้ชายแดน มีชาวต่างชาติจำนวนมากอยู่ในฝั่งเมียนมา และมีผู้บาดเจ็บจากการสู้รบหลายคน อย่าง เมื่อวานนี้ มีชาวจีนถูกสะเก็ดระเบิดจากการสู้รบที่บ้านมินลาป่าน อีก 4 คน
โดยการใช้อาวุธของทหารเมียนมาไม่ได้เป็นไปตามหลักการการสู้รบ เพราะเป็นการยิงที่ไร้เป้าหมาย ทำให้เพื่อนบ้านอย่างประเทศไทย ได้รับความเดือดร้อน และเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับการระเบิดทำลายอาคารสำนักงานในพื้นที่สแกมเมอร์หลายจุด ส่งผลต่อชาวต่างชาติและชาวไทย เช่นกัน
อ่านข่าว : ดีลประวัติศาสตร์! Netflix ทุ่ม 7.2 หมื่นล้านเหรียญ ซื้อ Warner Bros.
พบ “ลูกเสือโคร่งเพศผู้” โผล่เดินบนถนนบริเวณ “จุดชมวิวผารักษ์สลัดได”
เผาหลอก "นัทปง" ก่อนนำศพกลับ กทม.ชันสูตรซ้ำ-ตร.เรียก 4 พยานสอบสวน











