วันนี้ (6 ธ.ค.2568) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยย้ำว่าประเทศไทยไม่ต้องการสร้างความตึงเครียดหรือทำให้ประเด็นเหยียบทุ่นระเบิดกลายเป็นเรื่องการเมือง แต่เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและสูญเสียขาบ่อยครั้ง
รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าไทยใช้ช่องทางทวิภาคีอย่างสุจริตใจเพื่อแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงขอให้กัมพูชาชี้แจงการละเมิดข้อ 1 ของอนุสัญญา และ หลักมนุษยธรรมตามข้อ 8 วรรค 2 แต่คำชี้แจงของกัมพูชากลับขัดแย้งกับหลักฐานที่ตรวจสอบแล้ว และมีการบิดเบือนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบความศักดิ์สิทธิ์และความน่าเชื่อถือของอนุสัญญาโดยตรง
รัฐมนตรีสีหศักดิ์ ยังร้องขอให้เลขาธิการสหประชาชาติช่วยอำนวยความสะดวกตั้งคณะผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอิสระโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเด็นนี้ถูกใช้ทางการเมือง แต่ใช้กลไกอนุสัญญาพิสูจน์ความจริงอย่างเป็นกลาง สร้างความน่าเชื่อถือและแสดงว่ากลไกนี้ใช้ได้จริงเมื่อจำเป็น โดยย้ำจุดยืนไทยชัดเจน ไม่ควรมีทุ่นระเบิดใหม่ ไม่มีเหยื่อเพิ่ม และไม่ให้กฎปกป้องอ่อนแอลง พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามอนุสัญญาครบถ้วน และขอให้รัฐภาคีอื่น ๆ กระตุ้นกัมพูชามีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ สุจริตใจ
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand
ด้านนางสาวอุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ เจนีวา ได้ใช้สิทธิ์ตอบโต้ แย้งข้อกล่าวหากัมพูชาว่าข้อกล่าวหาของไทยไม่ได้รับการพิสูจน์และตรวจสอบอิสระ โดยไทยนำเสนอหลักฐาน เช่น คลิปวิดีโอจากกล้องโทรศัพท์ทหารกัมพูชา และเอกสารคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ของฝ่ายไทย ที่ยืนยันว่าทุ่นระเบิดที่พบเป็นของใหม่
ทูตไทยระบุว่าหากกัมพูชาสุจริตใจและโปร่งใส ก็ควรสนับสนุนข้อเสนอไทยในการตั้งคณะตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเบื้องหลัง หลังไทยดำเนินการโปร่งใสตามข้อ 8 ของอนุสัญญาออตตาวา
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand
อ่านข่าวอื่น :
พบ “ลูกเสือโคร่งเพศผู้” โผล่เดินบนถนนบริเวณ “จุดชมวิวผารักษ์สลัดได”
นายกฯ ลงพื้นที่หาดใหญ่ เดินหน้าแผนฟื้นฟู ก่อนไปเยี่ยมชาวสตูล











