วันนี้ (7 ธ.ค.2568) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 23.00 น. พบว่า ทหารกัมพูชามีการเตรียมความพร้อมสู้รบขั้นสูงสุด
จากกรณีปะทะที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน และยังเตรียมความพร้อมรบตลอดแนวชายแดน มีการสร้างที่กำบังเพิ่มเติม, เสริมความแข็งแรงที่มั่น, ค้นหาวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ, ลำเลียงกับระเบิดเก็บในที่กำบัง, ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมการต้อนรับผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาบัญชาการรบ
รวมทั้งยังเฝ้าตรวจการปฏิบัติของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้รถถัง, โดรนและการทำถนนบริเวณหน้าแนว
ความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
- พื้นที่ตรงข้ามช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทหารกัมพูชาประจำพื้นที่บ้านจุ๊บโกกีคางเกิด ได้รับคำสั่งให้ลำเลียงกับระเบิดไปเก็บในที่กำบัง
- พื้นที่ตรงข้าม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทหารกัมพูชาที่ประจำการพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ้างว่าได้ทำการยิงโดรนของฝ่ายไทยได้ 1 ลำ
- พื้นที่ตรงข้าม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารกัมพูชาสั่งการให้กำลังพลประจำแนวทุกคน ห้ามเปิดใช้อินเตอร์เน็ตเด็ดขาด และห้ามถ่ายรูประหว่างปฏิบัติภารกิจ ลงสื่อทุกช่องทาง นอกจากนี้ยังสั่งการหน่วยขึ้นตรง ตั้งแต่วันนี้ (7 ธ.ค.) ให้กำลังพลพื้นที่หน้าแนวทำความสะอาดอาวุธ, ที่กำบังและฐานที่ตั้งให้เรียบร้อย เนื่องจากในช่วงนี้หน่วยเหนือจะเริ่มทำการตรวจความพร้อมรบของกำลังพล
- พื้นที่ตรงข้ามช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ผู้บังคับบัญชาฝ่ายกัมพูชา สั่งการทหารกัมพูชาที่เดินทางออกนอกที่ตั้งให้เดินทางกลับมาภายในวันที่ 9-10 ธ.ค. หากฝ่ายกัมพูชามีการใช้ BM-21 จะใช้บริเวณพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ก่อน
กัมพูชาเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง-รถถัง-อพยพคน
วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยอีกว่า เวลา 20.00 น. ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงใส่กำลังพลของ พัน ร.13 ในพื้นที่ภูผาเหล็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี จำนวน 10 นัด ซึ่งฝ่ายไทยปลอดภัย
รวมทั้งยังตรวจพบการเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง RM70 ของฝ่ายกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร และอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน
นอกจากนี้ในพื้นที่ช่องคะนา และช่องระยี ตรวจพบฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายรถถัง T-55 เข้ามาในพื้นที่กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดนเช่นกัน
ส่วนเหตุการณ์ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ฝ่ายไทย ในพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นายและถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ขณะนี้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด จากการตรวจสอบบาดแผลขั้นต้นคาดว่าอาจถูกยิงโดยปืนซุ่มยิง
กองทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ได้เพิ่มระดับการเฝ้าระวังและดำเนินการทุกมาตรการ เพื่อปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานทางการเป็นหลัก
อ่านข่าว
ทภ.2 ขอประชาชน 4 จว.ชายแดนอพยพ ประเมินเหตุปะทะอาจขยายวงกว้าง
"กลาโหม" ประณามกัมพูชาเปิดฉากยิง เจตนาสร้างความขัดแย้ง-ยั่วยุทุกรูปแบบ











