วันนี้ (7 ธ.ค.2568) กรณี พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงว่า เมื่อเวลา 14.15 น. กองกำลังทหารไทย เป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนในพื้นที่พลาญธม อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร โดยอ้างว่าไทยใช้ทั้งปืนเล็ก ปืนกล อาวุธ B-40 และปืน ค. 60 มม. พร้อมอ้างว่ากัมพูชาไม่ได้ยิงตอบโต้
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ระบุว่า คำกล่าวของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่เป็นความจริง
ข้อเท็จจริงคือ ทหารกัมพูชานำกำลังเข้ามาในบริเวณพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะฝ่ายไทยดำเนินการปรับปรุงเส้นทางในเขตไทย จากนั้นได้ยิงเข้าใส่ชุดรักษาความปลอดภัยของชุดปรับปรุงเส้นทาง ฝ่ายไทยจึงได้ยิงปะทะตามกฎการใช้กำลังและนำไปสู่การปะทะ
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 2 นาย ได้แก่ ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ ถูกยิงบริเวณขา และ พลทหาร พรชัย จำปาจุม กระสุนถูกเสื้อเกราะบริเวณหน้าอก
โฆษกกองทัพบก ย้ำว่า การที่กัมพูชาอ้างว่าไม่ได้ทำการยิงมานั้น ไม่เป็นความจริง และเป็นการกล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐาน เหมือนที่กัมพูชามักปฏิบัติทุกครั้งเมื่อเป็นผู้กระทำต่อฝ่ายไทยก่อน ขณะที่ฝ่ายไทยมีหลักฐานชัดเจนยืนยันทั้งเวลา สถานที่และผลกระทบต่อกำลังพลของไทย
ทบ.ชี้กัมพูชาหวังขัดขวางไทยกู้ทุ่นระเบิด-ปรับปรุงเส้นทาง
พล.ต.วินธัย สุวารี ยังเชื่อว่ากัมพูชามีเป้าหมายเพื่อให้ฝ่ายไทยเกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย ไม่ต่างจากการแอบลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดในเขตพื้นที่อธิปไตยไทย ซึ่งฝ่ายกัมพูชาทำมาตลอดในห้วงที่ผ่านมา เพื่อมุ่งหวังที่จะขัดขวางการปฏิบัติงานของฝ่ายไทยในการเก็บกวาดทุ่นระเบิด และการปรับปรุงเส้นทางเพื่อภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน
พฤติกรรมดังกล่าวนับเป็นความตั้งใจที่จะละเมิดข้อตกลงอย่างชัดเจน และเชื่อว่าเหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อกลไกความร่วมมือในการรักษาความสงบในพื้นที่ชายแดน ที่ฝ่ายไทยมุ่งมั่นและพยายามให้ความร่วมมือมาโดยตลอด
ยืนยันว่าการปฏิบัติการด้วยอาวุธของฝ่ายไทยยึดกรอบกฎการใช้กำลัง ความจำเป็นในการป้องกันตนเองตามหลักสากล อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อตอบสนองต่อการกระทำอันเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
อ่านข่าว
ทหารไทย-กัมพูชาปะทะที่ภูผาเหล็ก ไทยตอบโต้ตามกฎ-กำลังพลเจ็บ 2 นาย
ทภ.2 ขอประชาชน 4 จว.ชายแดนอพยพ ประเมินเหตุปะทะอาจขยายวงกว้าง