เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2568 โฆษกรัฐมนตรีต่างประเทศจีน โพสต์เฟซบุ๊ก "Guo Jiakun Chinese Foreign Ministry Spokesperson 郭嘉昆" เปิดเผยว่า หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้โทรศัพท์คุยกับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศของไทย และนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงความเต็มใจที่จะลดความตึงเครียดและดำเนินการหยุดยิง
หวัง อี้ ระบุอีกว่า ในประเด็นพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทย จีนได้สนับสนุนการเจรจาอย่างสันติมาโดยตลอด และรักษาจุดยืนที่เป็นธรรมและเป็นกลาง พร้อมทั้งสนับสนุนความพยายามในการไกล่เกลี่ยของอาเซียน ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เดินทางไปไทยและกัมพูชาเพื่อประสานงานทางการทูต และจีนจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อไป รวมทั้งมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการฟื้นฟูสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา
เช่นเดียวกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า ทั้งไทยและกัมพูชาได้แจ้งความคืบหน้าล่าสุดของสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนให้รัฐมนตรีต่างประเทศจีนรับทราบ และแสดงความปรารถนาที่จะคลี่คลายความตึงเครียดและหยุดยิง โดยรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ระบุว่า ในฐานะมิตรประเทศและเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทยและกัมพูชา จีนเป็นประเทศที่ไม่อยากเห็นทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันมากที่สุด และเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ
ความรุนแรงของสถานการณ์การปะทะครั้งนี้เกินกว่าครั้งก่อนๆ มาก และหากยังคงดำเนินต่อไป จะไม่มีประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่ายและบั่นทอนความสามัคคีของอาเซียน ภารกิจเร่งด่วนในปัจจุบันคือต้องมีการตัดสินใจหยุดยิงโดยเร็วที่สุด ลดความเสียหายให้ทันเวลาและฟื้นฟูความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และยังหวังว่าทั้ง 2 ประเทศจะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อรับประกันความปลอดภัยของโครงการและบุคลากรของจีน และเฝ้าระวังผู้ที่เผยแพร่ข่าวลือเท็จเพื่อทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนกับทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า นายสีหศักดิ์ และนายปรัก สุคน ชื่นชมท่าทีที่เป็นกลางและไม่ลำเอียงของจีนอย่างสูง รวมถึงบทบาทของจีนในการไกล่เกลี่ย ยินดีกับการเดินทางมาไกล่เกลี่ยของทูตพิเศษจีน และหวังว่าฝ่ายจีนจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการคลี่คลายความตึงเครียดและฟื้นฟูสันติภาพ
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน
"จีน" จี้หยุดคาดเดาปมยึดอาวุธชายแดนไทย-กัมพูชา
สำนักข่าวซินหัว รายงานอ้างโฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า ฝ่ายจีนมีความคิดเห็นอย่างไร หลังเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพไทยได้ยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถัง เครื่องยิงจรวดและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ผลิตโดยจีน จากฐานกองกำลังกัมพูชา
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า จีนมีความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศกับทั้งไทยและกัมพูชาเป็นเวลานาน รวมถึงการค้าอาวุธ ความร่วมมือนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ฝ่ายที่สามใด ๆ ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักปฏิบัติระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน และไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาแต่อย่างใด และจีนหวังว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะงดเว้นจากการคาดเดาตามอำเภอใจและสร้างกระแสข่าวที่มีเจตนาร้าย
ขณะที่โฆษกกลาโหมจีน ย้ำว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของทั้งไทยและกัมพูชา จีนห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การปะทะที่เกิดขึ้น หวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะดำเนินการเพื่อสันติภาพเพื่อบรรลุการหยุดยิงโดยเร็ว และแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนกำลังส่งเสริมการเจรจาและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
"อันวาร์" ยันไทย-กัมพูชาร่วมประชุมอาเซียนนัดพิเศษ
ด้านอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่า ไทยและกัมพูชาตกลงที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ซึ่งเดิมการประชุมจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 16 ธ.ค. แต่เลื่อนออกไป เนื่องจากหลายฝ่ายต้องการให้จัดการประชุมในช่วงที่สถานการณ์สงบเรียบร้อย
ขณะที่ผู้นำมาเลเซีย ยืนยันว่า การประชุมจะทำให้อาเซียนสามารถหารือร่วมกัน สร้างข้อเท็จจริง และเพิ่มความพยายามในการชักนำให้ทั้งไทยและกัมพูชายุติการโจมตีในแนวหน้า โดยเริ่มจากการสงบศึกทันที
อ่านข่าว
"หลิว จงอี้" หารือ "ทบ." ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม
ทอ.เผยโจมตีคลังเก็บ BM-21 นอกปอยเปต - กต.ยันคนไทยปลอดภัย
กดดัน "ฝ่ายตรงข้าม" ให้เข้าสู่กระบวนการสันติภาพ "กลยุทธ์" กองทัพเรือ











