มติครม.ให้รฟท.บริหารตลาดนัดจตุจักรแทน กทม.
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (27 ธ.ค.) มีมติเห็นชอบในหลักการในการจัดตั้งกองทุนเพื่อนำมาใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการในระยะยาว วงเงิน 350,000 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการประกันภัย ในวงเงิน 50,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลเห็นว่าควรมีการจัดตั้งกองทุนนี้ เพื่อจัดระบบประกันภัยให้สามารถดูแลตัวเองได้ โดยเฉพาะช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื่องจากยังมีความกังวลของบางบริษัทที่ไม่ได้ทำประกันภัยต่อในต่างประเทศ
นอกจากนั้นก็อนุมัติแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ครอบคลุมใน 8 ด้าน เช่น ด้านการขยายพื้นที่ปลูกป่าเพื่อสร้างสมดุลเชิงนิเวศ, การสร้างระบบการจัดเก็บน้ำ เช่น การสร้างเขื่อน หรือแก้มลิง, การจัดการด้านผังเมือง และการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุภัยพิบัติ ที่อาจจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
ส่วนการแต่งตั้งโยกย้าย มีข้าราชการพลเรือนสามัญ 4 คน และเอกอัครราชทูต 7 คน รวม 11 คน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ขณะที่กระทรวงมหาดไทย มี 20 คน และด้วยส่วนหนึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการพิจารณาจากบุคคลใกล้ชิดคนในพรรคเพื่อไทย โดยมีรายงานว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดบางคนได้รับโควต้าเลื่อนตำแหน่งจาก ส.ส.ในพรรคเป็นรายภาค หรือบางคนได้รับการสนับสนุนจากแกนนำของพรรค ขณะที่คนใกล้ชิดของพรรคภูมิใจไทยส่วนหนึ่งถูกโยกไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
ส่วนกรณีการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในสังกัดกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลแทนกรุงเทพมหานคร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.55 เป็นต้นไป แต่จะงดเก็บค่าเช่าแผงเป็นเวลา 2 เดือน และเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในระดับหนึ่ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมีมติอนุมัติขยายเวลาการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่ออีก 1 เดือน ซึ่งหมายถึงอัตราภาษีคงไว้ที่ 0.005 บาทต่อลิตร ถึงวันที่ 31 ม.ค.55 รวมถึงการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ เส้นทางบางนา-ชลบุรี และทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ ตั้งแต่เที่ยงคืน 28 ธ.ค.54 จนถึง 3 ม.ค.55