ผู้กำกับฯ "ไมเคิล มัวร์" เตรียมประท้วง MPAA หลังสารคดีเพื่อสังคม “Where to Invade Next” ได้เรตอาร์

Logo Thai PBS
ผู้กำกับฯ "ไมเคิล มัวร์" เตรียมประท้วง MPAA หลังสารคดีเพื่อสังคม “Where to Invade Next” ได้เรตอาร์

ถึงจะเป็นสารคดีเรื่องแรกในรอบ 6 ปี แต่ผลงานล่าสุดของ ไมเคิล มัวร์ ก็ดูท่าจะมีปัญหาในการออกฉาย หลังสารคดีถูกจัดอยู่ในหมวดหนังเรตอาร์ เพราะได้รับการพิจารณาว่ามีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

แม้ชื่อสารคดีจะสื่อถึงความจริงจัง แต่ Where to Invade Next สารคดีเรื่องล่าสุดของ ไมเคิล มัวร์ ไม่ได้จับประเด็นอย่างการก่ออาชญากรรมและสงครามเหมือนเรื่องก่อนๆ แต่เป็นบันทึกการเดินทางท่องยุโรปของผู้กำกับมือรางวัลออสการ์ เพื่อนำแนวคิดในการจัดระเบียบสังคมของยุโรปมาปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวอเมริกัน ทั้งสวัสดิการพนักงานของอิตาลีที่จ่ายค่าแรงขั้นต่ำแก่พนักงานที่ลาหยุดนานถึง 7 สัปดาห์, ระบบการศึกษาฟินแลนด์ ที่มีชั่วโมงเรียนแค่วันละ 5 ชั่วโมง, การส่งเสริมให้นักเรียนหญิงสนใจภาควิชาเกี่ยวกับการเมืองในไอซ์แลนด์ และคุณภาพอาหารกลางวันของโรงเรียนในฝรั่งเศส

แต่ความหวังที่จะนำสารคดีมาเผยแพร่ในวงกว้างต้องสะดุด เมื่อ MPAA หรือสมาคมภาพยนตร์อเมริกัน ได้พิจารณาให้สารคดี Where to Invade Next อยู่ในหมวดหนังเรตอาร์ เนื่องจากมีการใช้คำหยาบ, ภาพความรุนแรง, การใช้ยาเสพติด และภาพเปลือยอยู่ในหนัง ซึ่งการได้เรตอาร์ ทำให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 17 ปี ที่ไม่มีผู้ปกครองมาชมด้วย จะหมดสิทธิ์ชมสารคดีในโรงไปโดยปริยาย

ทาง ไมเคิล มัวร์ ออกมาแก้ต่างว่า ภาพที่นำเสนอในสารคดี ไม่ต่างจากภาพที่ผู้ชมได้ดูในข่าวทั่วๆ ไป ทั้งภาพชาวแอฟริกัน อเมริกัน ที่ถูกตำรวจล็อกคอจนเสียชีวิต, การปราบปรามยาเสพติดของทางการโปรตุเกส, การใช้คำหยาบของกลุ่มผู้ประท้วงในไอซ์แลนด์ และภาพเปลือยของพนักงานที่ได้สิทธิเที่ยวสปาคลายเครียดในเยอรมนี ซึ่งเขามองว่าสารคดีเรื่องนี้ ยังมีความรุนแรงน้อยกว่าหนังแอ็คชั่นสำหรับครอบครัว ที่มีฉากยิงกันตายเกลื่อนจอ

ไมเคิล มัวร์ เคยมีความขัดแย้งกับ MPAA ต่อมาตรฐานการจัดเรตภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ Fahrenheit 9/11 สารคดีรางวัลปาล์มทองคำถูกจัดให้อยู่ในหมวดหนังเรตอาร์เมื่อปี 2004 โดย โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์ภาพยนตร์ผู้ล่วงลับก็เคยโจมตี MPAA ที่พิจารณาให้เรตอาร์แก่ Bowling for Columbine สารคดีรางวัลออสการ์ ที่ตีแผ่ปัญหาการใช้อาวุธปืนในสถานศึกษาของสหรัฐ ซึ่ง อีเบิร์ตมองว่า แนวคิดโลกสวยของ MPAA ทำให้เยาวชนอเมริกันหลายคนหมดสิทธิรับชมสารคดีที่พวกเขาสมควรต้องดูมากที่สุด

ทางเลือกของสารคดีที่ได้รับเรตอาร์คือการปรับเปลี่ยนเนื้อหาเพื่อให้เบาลง หรือออกฉายโดยไม่ผ่านการพิจารณาการจัดเรต ซึ่งภาพยนตร์ที่ไม่มีเรตจะไม่สามารถฉายตามโรงหนังชั้นนำทั่วไปได้ โดย 3 ปีก่อน Bully สารคดีต่อต้านการรังแกในโรงเรียน ยอมฉายแบบไม่มีเรต หลัง MPAA พิจารณาให้อยู่ในหมวดหนังเรตอาร์ จนสารคดีต้องประสบความล้มเหลวทางรายได้ในเวลาต่อมา

ซึ่งทาง ไมเคิล มัวร์ เตรียมอุทธรณ์การพิจารณาของ MPAA และยืนยันว่าจะไม่มีการตัดทอนเนื้อหาของสารคดี เพื่อให้สารคดีได้เรตลดลงอีกด้วย
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง