"กิิตติรัตน์"ถกไจก้า รมว.กระทรวงการเงินญี่ปุ่น แจงแผนป้องกันน้ำท่วมคืบหน้าแล้ว20%

เศรษฐกิจ
15 พ.ค. 55
10:27
9
Logo Thai PBS
"กิิตติรัตน์"ถกไจก้า รมว.กระทรวงการเงินญี่ปุ่น แจงแผนป้องกันน้ำท่วมคืบหน้าแล้ว20%

เตรียมอนุมุติเงินกู้ตามพ.ร.ก. 3.5 แสนล้านอุดหนุนพร้อมเร่งทำภาพถ่ายพื้นที่รองรับน้ำภายในเดือนพ.ค.นี้ รับลูกขยายความคุ้มครองให้เอกชนรายใหญ่เพิ่ม อ้อนไจก้าปล่อยกู้รถไฟสายสีแดงตามเดิม

 นายกิตติรัตน์  ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังเปิดเผยถึงการหารือกับทางผู้บริหารของทางไจก้าว่า ทางไจก้ายังยืนยันสนับสนุนทางการเงินให้ไทยต่อไปรวมทั้งสนใจโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ไทยชี้แจงไปว่ายังไม่ต้องการใชเงินกู้จากต่างประเทศเพิ่ม  เนื่องจากมีเงินกู้ในประเทศอยู่แล้วตามพ.ร.ก. 3ิ.5 แสนล้านบาทที่จะใช้ลงทุนบนิหารจัดการน้ำในระยะสั้นและระยะยาว 

 
อย่างไรก็ตามส่วนของเงินกู้เดิมที่ทำความตกลงไว้แล้วส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงวงเงิน 7 หมื่นล้านบาทนั้นกระทรวงการคลังยืนยันขอใช้วงเงินต่อไปแม้โครงการรถไฟฟ้าจะล่าช้าไปบ้างเนื่องจากติดปัญหาบางประการแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งแกไขปัญหาโดยเร็วคาดว่าจะเบิกเงินได้ตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากนายกฯมอบหมายให้กระทรวงการคลังและคมนาคมร่วมกันผลักดันโครงการให้เดินหน้าต่อไปโดยเร็ว  ส่วนโครงการอื่นๆทางไจก้าพร้อมสนับสนุนด้านข้อมูลหรือทำงานร่วมกับไทยต่อไป รวมทั้วการเข้าไปสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงไทยก็พร้อมให้สนับสนุนเช่นกัน 
 
นายกิตติรัตน์ กล่าวถึงการหารือกับรมว.กระทรวงการกำกับสถาบันการเงิน(FSA) ว่าทางญ่ีปุ่นเห็นว่าการจัดตั้งกองทุนประกันภัยพิบัติเป็นแนวทางที่เหมาะสมแต่ขอให้พิจารณาขยายการคุ้มครองให้บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นที่เข้าไปลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ 30%ของทุนประกัน  ซึ่งตนรับจะนำไปหารือกับผู้บริหารกองทุนภัยพิบัติต่อไป ขณะที่ปลัดกระทรวงการคลังระบุว่าทางกงอทุนฯกำลังพิจารณาในประเด็นดังกล่าวอยู่แล้วโดยอาจจะขยายความคุมครองให้เป็นรายๆไป ซึ่งจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ๆที่มีการลงทุนสูง 
 
สำหรับความคืบหน้าในการป้องกันน้ำท่วมนั้นได้ชี้แจงว่าขณะนี้ส่วนของแผนงานเร่งด่วนหรือระยะสั้นได้เร่ิมเดินหน้าไปแล้ว เช่น การสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรมมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 20% ซึ่งเป็นการลงทุนเองหรือใช้เงินกู้ ส่วนงบอีก 2ใน3 ส่วนที่จะมาจากการสนับสนุนของภาครัฐนั้นจะใช้จากพ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทซึ่งขณะนี้ยังเหลือในขั้นตอนของการอนุมัติเท่านั้นคาดว่าจะดำเนินการได้ในเร็วๆนี้ 
 
ส่วนการจัดหาพื้นที่รองรับน้ำนั้นในส่วนของเงินไม่มีปัญหาเพราะเตรียมใช้เงินจากพ.ร.ก.ไว้แล้ว 6 หมื่นล้านบาท  แต่ยังต้องรอความชัดเจนด้านข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศเเพื่อระบุพื้นที่รองรับน้ำที่เหมาะสมก่อน  ซึ่งส่วนนี้ทำงานร่วมกับทางไจก้าด้วยเช่นกันคาดว่าสิ้นเดือนพ.ค.นี้น่าจะได้ภาพถ่ายที่ชดัเจนเพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป  ส่วนของโครงการระยะยาวมองว่ายังมีเวลาคิดให้รอบครอบจึงจ้างที่ปรึกษาเข้ามาช่วยดำเนินการแต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีการปรับแผนการใช้เงินตามพ.ร.ก.ใหม่แต่อย่างใด 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง