ปราจีนฯอ่วมน้ำท่วมขยายวงเพิ่มเป็น 7 อำเภอ-น้ำยมทะลัก 
ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ยังคงมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ขยายวงกว้าง ทำให้ชาวบ้านต้องปรับพื้นบ้านให้สูงขึ้นอีก นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้มวลน้ำทั้งจากแม่น้ำยมสายหลักและสายเก่ามารวมกันที่อำเภอบางระกำทำให้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมกว่า 200,000 ไร่เบื้องต้นได้ผันน้ำที่ท่วมในเขตลุ่มน้ำยม ลงสู่แม่น้ำน่าน คาดว่าช่วงปลายเดือนตุลาคม จะสามารถระบายน้ำออกได้ทั้งหมด
เช่นเดียวกับจังหวัดพิจิตรแม่น้ำยม ยังคงเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในตำบลรังนก อำเภอสามง่าม อย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านบางส่วนจึงใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน เนื่องจาก การเข้า-ออก เป็นไปด้วยความยกลำบาก ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ ล่าสุดน้ำได้ไหลเข้าท่วม ที่บ้านจ้างสนุก หมู่ 12 ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ โดยเฉพาะถนนที่ใช้เข้าออกหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะเพียงอย่างเดียว รวมทั้งเริ่มประสบปัญหาอาหารการกินมากขึ้น
ขณะที่จังหวัดอ่างทองชาวบ้านต่างพากันหวั่นวิตกกับเขื่อนเรียงหินริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดอ่างทองวรวิหาร ในตัวเมืองอ่างทองที่ด้านล่างถูกน้ำเซาะจนหินหายไปหลายสิบเมตร และ จุดนี้เมื่อปีที่แล้ว ถูกน้ำทะลุพื้นด้านล่าง จนทะลักเข้าท่วมสถานที่ราชการ วัด และ โรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาหลังเขื่อนเจ้าพระยาที่ จังหวัดชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำที่ 1,718 ลูกบาก์ศเมตรต่อวินาที ก็ยังคงส่งผลกระทบพื้นที่การเกษตร และ บ้านเรือนประชาชน ทั้งในจังหวัดอ่างทอง และ พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก และตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมืองอ่างทอง ที่บ้านเรือนกว่า 200 หลังยังถูกน้ำท่วมขัง
ส่วนที่จังหวัดมหาสารคามเจ้าหน้าที่ยกระดับถนนระหว่าง บ้านโขงกุดหวาย กับบ้านโนนทัน ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย สูงขึ้นอีก 3 เมตร เพื่อป้องกันน้ำจากแม้น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมวัด และบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากตำบลมะค่าเป็นพื้นที่ลุ่มติดลำน้ำและประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี
ส่วนสถานการณ์ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ระดับน้ำที่ยังสูงขึ้นไม่หยุดทำให้ชาวบ้านต้องอาศัยริมถนนเป็นที่พักชั่วคราว โดยเฉพาะบริเวณหัวถนนชุมชนโรงสี-ไปรษณีย์ ซึ่งเป็นทางเข้าออกตลอดเทศบาลตำบลกบินทร์พบว่า ระดับน้ำยังคงไหลเชี่ยวมีระดับสูงกว่าผิวถนนกว่า 1 เมตรทำให้ประชาชนในย่านธุรกิจถูกตัดขาด
ขณะที่สถานการณ์น้ำในขณะนี้พบว่าได้กระจายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอแล้วคือ อำเภอนาดี กบินทร์บุรี ประจันตคาม ศรีมหาโพธิ ศรีมโหสถ บ้านสร้าง และ เมือง โดยเฉพาะอำเภอกบินทร์บุรีสูงกว่าระดับวิกฤตเกิน 2 เมตรแล้ว ขณะที่บางพื้นที่ประชาชนถูกตัดขาดมานานกว่า 5 วัน