จนถึงขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์และพรรครักประเทศไทย ยังไม่ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยประสานขอเลื่อนนายสมศักดิ์ เกรียติสุรนนท์ประธานสภาผู้แทนราษฎรออกไปเป็นช่วงบ่าย แทนกำหนดการเดิมที่นัดหมายไว้ เวลา 10.30 น.วันนี้ (9 พ.ย.) ท่ามกลางกระแสว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ทั้ง 2 พรรคเห็นต่างกันเรื่องตัวบุคคลที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่มีรายงานว่า นอกจากญัตติที่กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.ท.โทชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว
คาดการณ์ว่า ในญัตติจะเพิ่มชื่อรัฐมนตรีจากกรณีการยื่นถอดถอนอีก 3 คนด้วยกัน คือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ,นายบุญทรง เตริยาภิรมย์,นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส่วนรัฐมนตรีที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเห็นต่างกันและยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีชื่อในญัตติหรือไม่ คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง,นายกิตติรัตน์ ณ ระนองและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งนอกจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นไม่ตรงกันแล้ว นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย แสดงความจำนงค์ที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม
ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันถึงความถูกต้องตามกฎหมายกรณีการลงนามคำสั่งให้ถอดยศ ร.ต. และเรียกคืนเงินเดือน รวมถึงเบี้ยหวัดจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมชี้แจงหากไม่ดำเนินการก็อาจจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามความผิดทางอาญา มาตรา 157 ได้
ทั้งนี้ยังได้อ้างอิงคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา ซึ่งถือเป็นความผิดโดยตรงของฝ่ายปฏิบัติ แต่ผู้ซื้อดำเนินการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็กลายเป็นผู้กระทำผิดด้วย เช่นเดียวกับการทำเอกสารทางราชการปลอม ที่นายอภิสิทธิ์ อาจปฏิเสธความผิด แต่ได้นำเอกสารหลักฐานไปอ้างอิงดำเนินการก็อยู่ในข่ายผู้กระทำผิดด้วย
ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ แสดงความเห็นถึงการดำเนินการของกระทรวงกลาโหมเป็นกรณีการตอบโต้ หลังพรรคประชาธิปัตย์ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและยื่นเรื่องถอดถอนรัฐมนตรี พร้อมทั้งมอบหมายให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แถลงชี้แจง พร้อมเตรียมยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครอง เพราะเชื่อมั่นว่าคำสั่งกระทรวงกลาโหมไม่ชอบด้วยกฎหมาย