จนท.ตรวจเข้มลักลอบค้าสัตว์ป่า โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน 1 ปี ยึดได้นับหมื่นตัว
ลูกเสือโคร่งอายุ 1 เดือน จำนวน 5 ตัว กำลังอยู่ระหว่างการดูแลจากเจ้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งได้นำเข้ามาดูแลรักษาภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี หลังเจ้าหน้าที่ได้จับผู้ต้องหาลักลอบเตรียมนำลูกเสือโคร่งขนย้ายเพื่อไปประเทศที่ 3 โดยลูกเสือโคร่งทั้ง 5 ตัวนี้ได้ถูกส่งมาอนุบาลที่สถานีแห่งนี้ ส่วนอีก 10 ตัวที่เหลือได้กระจายไปยังสถานีเพาะเลี้่ยงแห่งอื่น โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบแหล่งที่มาของลูกเสือเหล่านี้
ประเทศไทยถูกจับตามองจากองค์กรระหว่างประเทศว่า เป็นเส้นทางที่ถูกใช้ในการลักลอบขนย้ายสัตว์ป่าไปยังประเทศที่ 3 โดยเฉพาะการลักลอบผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติ เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มการตรวจโดยใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะส่งต่อสัมภาระต้องสงสัยไปยังจุดตรวจสอบศุลกากร ซึ่งนายพงศภัค ตรีรัตนาเศรษฐ์ หัวหน้าฝ่ายบริการผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บอกว่า นอกเหนือจากความชำนาญในการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ยังได้เน้นติดตามข้อมูลทางการค้าด้วย
ขณะที่ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่า แม้ทางเจ้าหน้าที่จะปรับแผนในการตรวจสอบการลักลอบขนย้ายสัตว์ป่าและสัตว์หายาก แต่ปัจจุบันพบว่า กลุ่มผู้ค้ามีการลักลอบขนย้ายสัตว์เหล่านี้ด้วยวิธีการเดินเท้าหรือเส้นทางรถยนต์ และประชาชนที่รุกพื้นที่ป่าก็มีส่วนทำให้เกิดการว่าจ้างลักลอบขนย้ายสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่จึงต้องทำความเข้าใจร่วมกันกับคนในพื้นที่
สำหรับสถานการณ์การค้าสัตว์ป่าในไทย ตลาดที่ใหญ่ที่สุดยังเป็นตลาดนัดจตุจักร กรุงเทพมหานคร และขณะนี้ผู้ค้ายังลักลอบค้าสัตว์ป่าและสัตว์หายากเหล่านี้อยู่ ด้วยการทำทางเข้าออกเพียงทางเดียว และมีคนเฝ้าเพื่อคอยตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจจับหรือไม่
สำหรับสถิติคดีเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ในช่วงตุลาคม 2554 - กันยายน 2555 ตรวจยึดสัตว์ป่าได้ 14,690 ที่มากที่สุดคือ นกชนิดต่างๆ จำนวน 8,325 ตัว ส่วนเสือโคร่งใน 13 ประเทศทั่วโลก ยังมีปัญหาในการปล่อยคืนสู่ผืนหลังนำมาอนุบาล เนื่องจากเสือโคร่งเหล่านั้นไม่สามารถล่าเหยื่อได้ และต้องตายในที่สุด โดยขณะนี้มีเพียงประเทศอินเดียและอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการศึกษาทดลองในการปล่อยเสือโคร่งจากการอนุบาลดูแลคืนสู่ผืนป่า