ชาวบ้าน จ.สงขลา พบชาวโรฮิงยาถูกนายหน้าปล่อยทิ้ง หลัง จนท.ตรวจเข้มค้ามนุษย์

วันนี้คณะฑูตจากประเทศในภูมิภาคอเมริกา และแปซิฟิก รวมถึงกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป รวมหารือถึงสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกันชาวบ้านในตำบลฉลุง จังหวัดสงขลา พบชาวโรฮิงยาถูกกลุ่มนายหน้าปล่อยทิ้ง หลังเจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการตรวจสอบการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซียอย่างเข้มงวด

ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ช่วยเหลือชาวโรฮิงยา 2 คน นำไปพักภายในมัสยิดหมู่บ้านเป็นการชั่วคราว หลังไปพบกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในสวนยางพารา จากการสอบถามพบว่า ชาวโรฮิงยาประมาณ 30 คน ถูกนายหน้าชาวไทยพาเข้ามาขายแรงงาน แต่หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวดในระยะนี้ จึงถูกนายหน้าปลดทรัพย์ไปทั้งหมด และนำไปทิ้งไว้ในจังหวัดสตูล ก่อนที่ชาวโรฮิงยาทั้งหมด ได้เดินเท้าข้ามเขาแก้วจากจังหวัดสตูล มาถึงสวนยางพาราของชาวบ้านในตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังให้ความช่วยเหลือแล้ว

ขณะที่ประชาชนในจังหวัดสงขลา นำอาหารและน้ำดื่ม ให้กับชาวโรฮิงยาที่อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว หลังหน่วยงานในพื้นที่ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือชาวโรฮิงยาออกมาจากตำบลปาดังเบซาร์จำนวนกว่า 800 คน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คัดแยกชาวโรฮิงยาซึ่งเป็นเยาวชนไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดสงขลา จำนวน 105 คน

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้มีคณะทูตจากประเทศในภูมิภาคอเมริกา และแปซิฟิก และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 24 ประเทศ เข้าเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งร่วมหารือถึงสถานการณ์การค้าแรงงาน และค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานธุรกิจประมง ซึ่งพบมีปัญหามากใน 7 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสาคร, จังหวัดระยอง, จังหวัดตราด, จังหวัดชุมพร, จังหวัดสงขลา, จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล ซึ่งจะมีการประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เร้นท์ ไปยัง 7 จังหวัดที่พบปัญหามาก เพื่อหารือถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ตลอดจนการวางแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้งระยะสั้น และระยะยาว ก่อนลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามเรื่องการใช้แรงงานต่างด้าว