สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ค้านค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง "ผู้ว่าฯกทม." สูงเกินเหตุ

การเมือง
23 ม.ค. 56
04:42
262
Logo Thai PBS
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ค้านค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง "ผู้ว่าฯกทม." สูงเกินเหตุ

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ คัดค้านค่าใช้จ่ายเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่สูงเกินเหตุ อันนำไปสู่การเลือกปฏิบัติและสร้างความไม่เท่าเทียมกันของผู้แข่งขัน

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ได้ออกประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย ในการเลือกตั้งของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดให้ผู้สมัครแต่ละคนสามารถใช้จ่ายเงินในการเลือกตั้งไว้สูงลิ่วไม่เกิน 49 ล้านบาท และในกรณีที่มีการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง และไม่มีการรับสมัครใหม่ ผู้สมัครแต่ละคนต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ได้ไม่เกินหนึ่งในสาม คือ 16.33 ล้านบาทนั้น
 
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เห็นว่าการประกาศดังกล่าว ได้สร้างความได้เปรียบ-เสียเปรียบให้เกิดขึ้นแก่ผู้แข่งขันโดยตรง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครที่ร่ำรวยหรือมีพรรคการเมืองสนับสนุน กีดกันผู้สมัครที่มีเงินน้อยแต่อาจมีความรู้ ความสามารถสูง เข้าข่ายเป็นการสนับสนุนผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดโดยเฉพาะ อันเข้าลักษณะการกระทำอันเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ส่อไปในทางไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 236 ประกอบ พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2554 มาตรา 105 อันมีความผิดตามมาตรา 115 โดยชัดแจ้ง
 
นอกจากนั้น การกำหนดค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วดังกล่าว ยังเข้าข่ายการกระทำอันมีลักษณะเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ทั้งนี้เพราะในการกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นอื่นซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า กทม. ก็ไม่เคยกำหนดไว้สูง ดังเช่น จังหวัดนครราชสีมา นายก อบต. ก็กำหนดไว้เพียงไม่เกิน 5 แสนบาท นายกเทศมนตรีนคร ไม่เกิน 2 ล้านบาท และนายก อบจ.ไม่เกิน 17 ล้านบาทเท่านั้น
 
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเงินเดือนและค่าตอบแทนของผู้ว่า กทม.ซึ่งมีเดือนละ 110,120 บาทรวมตลอดอายุ 4 ปีจะได้ค่าตอบแทนเพียง 5.28 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเพดานค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งถึงเกือบ 10 เท่า ซึ่งไม่มีตรรกะหรือเหตุผลใด ที่จะทำให้ผู้ที่ได้เป็นผู้ว่า กทม.สามารถแสวงหาเงินดังกล่าวคืนมาได้ นอกจากที่จะต้องคอรัปชั่น รับเงินใต้โต๊ะในโครงการเมกกะโปรเจ็กต่าง ๆ จากเงินงบประมาณประจำปีของ กทม.ที่มีปีละกว่า 7 หมื่นล้านบาท หรือการใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์อื่น ในระบบส่วย หรือการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในแต่ฤดูกาลโยกย้าย หรือการเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับใบอนุญาตในกิจการต่าง ๆ ของธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในอำนาจของ กทม. ฯลฯ ซึ่งท้ายที่สุด ผู้ที่จะต้องได้รับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว คือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ทั้งหมดนั่นเอง
 
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องให้ กกต.กลาง และหรือ กกต.กทม.สั่งทบทวนและยกเลิกประกาศดังกล่าวเสียโดยพลันหรือภายใน 15 วัน แล้วกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครผู้ว่า กทม. ใหม่โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งไม่ควรเกินจำนวนเงินเดือนและค่าตอบแทนของผู้ว่า กทม. ตลอดอายุรวม 4 ปี ทั้งนี้หาก กกต.กลางและ กกต.กทม.เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องและคัดค้านนี้ สมาคมฯ จะหาข้อยุติและสร้างบรรทัดฐานการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยพึ่งอำนาจศาลปกครองต่อไป
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง