ผบ.ทบ.เสนอใช้กฎหมายพิเศษ หลังเกิดเหตุอุ้มฆ่าพลทหาร อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ ตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณริมถนนบ้านกอตอ ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นจุดที่พบศพพลทหารมะอีลา โตะลู ทหารสังกัดนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ จังหวัดนราธิวาส หลังถูกชายฉกรรจ์ 8 คน จี้ลักพาตัวไปเมื่อสองวันก่อน ตามคำให้การของภรรยาและบุคคลในครอบครัว
พลทหารมะอีลา ถูกส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่ที่กองร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บ้านยือลอ หมู่ที่3 ตำบลบาเร๊ะใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการที่ถูกบุกโจมตี เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และมีผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม 16 คน
น.ท.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพลทหารมะอีลา ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และเป็นกำลังสำคัญของฐานปฎิบัติการ ก่อนหน้านี้ พลทหารมะอีลา ได้ปลดประจำการแล้ว แต่ได้ขอสมัครปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพราะมีความผูกพันกับหน่วยงาน โดยต้นสังกัดจะปูนบำเหน็จพิจารณาเลื่อนยศ พร้อมเงินเยียวยากว่า 3 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงจังหวัดนราธิวาส ประเมินว่า เหตุอุ้มพลทหารจากบ้านพักไปฆ่า ทำให้เชื่อได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ต้องการเอาข้อมูลบางอย่างของฝ่ายทหาร รวมทั้งที่อยู่ของทหารแต่ละนาย เมื่อได้ข้อมูลแล้วจึงฆ่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพลทหารมะอีลา พร้อมทั้งสั่งไปยังนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติในพื้นที่ว่า หากยังไม่ชัดเจนเรื่องความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ ก็ไม่ควรให้กำลังพลรีบกลับบ้าน โดยให้หาที่พักที่ปลอดภัยก่อนจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ก็ต้องใช้กฎหมายพิเศษให้เข้มงวดขึ้นในหลายข้อและหลายมาตรการ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายพิเศษที่ใช้อยู่ข้อเดียว คือ การตรวจค้นจับกุม ส่วนปัญหาที่ผู้ก่อความไม่สงบแต่งกายเลียนแบบทหารเป็นปัญหาเดิมที่ต้องแก้ไข.
แท็กที่เกี่ยวข้อง: