นายกฯยันปาฐกถามองโกเลียหวังเป็นอุทาหรณ์บนเวทีประชาธิปไตย

การเมือง
30 เม.ย. 56
08:26
92
Logo Thai PBS
นายกฯยันปาฐกถามองโกเลียหวังเป็นอุทาหรณ์บนเวทีประชาธิปไตย

นายกรัฐมนตรียืนยันปาฐกถาที่ประเทศมองโกเลียหวังเป็นอุทาหรณ์บนเวทีประชาธิปไตย ไม่ได้กล่าวหาใคร และเป็นการแสดงความจริงใจที่จะพัฒนาประชาธิปไตย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีถึงการปาฐกถาที่ประเทศมองโกเลียว่า เวทีดังกล่าวชื่อเวทีประชาคมประชาธิปไตย ซึ่งปาฐกถาที่กล่าวไปนั้นเป็นการเรียนไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และอยากเห็นประชาธิปไตยของไทยเดินไปข้างหน้า และการให้ความสำคัญเรื่องประชาธิปไตยเป็นการสร้างความมั่นใจกับประชาคมโลกว่าไทยมีจุดยืนที่อยากพัฒนาประชาธิปไตย และความเสมอภาคเพื่อให้ประชาคมโลก และนักลงทุนได้ไว้ใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนต่างประเทศมักที่จะพูดแต่เรื่องที่ดีของประเทศ แต่กลับพูดในเรื่องดังกล่าวซึ่งอาจจะสร้างภาพลักษณ์ด้านลบแก่ประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ฟังแบบแยกส่วนเพราะเวทีที่พูดเป็นเวทีที่พูดถึงประชาธิปไตยจึงต้องแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้แข็งแรง และเป็นการแสดงให้เห็นว่าไทยมีความจริงใจต้องการร่วมเดินหน้าพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศอื่น

ส่วนกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการสร้างความขัดแย้งในประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้กลับไปฟังปาฐกถาอีกครั้งว่าเป็นเรื่องของการให้อุทาหรณ์มากกว่า และให้ไปฟังที่ประเทศอื่นพูดด้วย เพราะมีการถ่ายทอดประสบการณ์ด้วยเหมือนกัน ขณะที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ ซึ่งที่พูดไปเป็นการให้อุทาหรณ์ อยากให้มองภาพรวมมิใช่มองเพียงจุดต่อจุดเท่านั้น

และหากมีการจัดเวทีดังกล่าวในประเทศไทยนายกรัฐมนตรีจะพูดหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูจังหวะเวลา และความเหมาะสม แต่หากมีโอกาสก็อยากจะพูด และการพูดนั้นมิได้ต้องการให้เกิดการทะเลาะกัน แต่ว่าเป็นอุทาหรณ์ ไม่ได้กล่าวหาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และเป็นสิ่งที่ทำไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศ เพราะว่าประชาธิปไตยเป็นหนึ่งในเรื่องที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญมากสังเกตได้จากที่ในช่วงที่ประเทศไทยไม่มีการเลือกตั้งหรือถูกรัฐประหาร หลายประเทศไม่ได้ให้ความสนใจกับประเทศไทยบนเวทีโลก

ส่วนที่มีคณะรัฐมนตรีอนุมัติการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามที่คณะมนตรีความมั่นคงขอความร่วมมือมา และเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ และอยากเห็นการแก้ไขปัญหาของภูมิภาคเป็นไปอย่างสงบ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง