"บุรีรัมย์" ปลดโค้ชหลังเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

กีฬา
2 พ.ค. 56
05:03
142
Logo Thai PBS
"บุรีรัมย์" ปลดโค้ชหลังเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถบุกไปเสมอกับทีมเอฟซี โซล ทำให้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ขณะที่ เนวิน ชิดชอบ กลับช็อคแฟนปราสาทสายฟ้าด้วยการประกาศแยกทางกับโค้ชแต๊ก อรรถพล บุษปาคม กุนซือของทีม

ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ที่สนามโซล เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทีมเอฟซี โซล พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้ บุรีรัมย์ ต้องพยายามมีแต้มให้ได้ เพื่อโอกาสในการลุ้นเข้ารอบ และลุ้นไม่ให้ เวลกัลตะ เซนได คว้า 3 คะแนนในเกมสุดท้าย นาทีที่ 54 เป็น เอฟซี โซล เจ้าบ้านที่ได้ประตูนำไปก่อน 1-0 จากผลงานของ จุน ซุน ยอง

นาทีที่ 56 บุรีรัมย์ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จาก เอกชัย สำเร่ นาทีที่ 74 เอฟซี โซล ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จาก คิม ฮุน ซุง และนาทีที่ 76 บุรีรัมย์ ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการยิงฟรีคิก ระยะ 25 หลา ของ ธีราทร บุญมาทัน

จบการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเสมอกับ เอฟซี โซล ไป 2-2 พร้อมกับเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ โดยเข้าไปพบกับ บุนยอดกอร์ จากอุซเบกิสถาน และจะได้เล่นใน สนาม ไอ-โมบาย สเตเดียมก่อนในวันที่ 14 พฤษภาคม ต่อด้วยไปเยือนในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้

ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ เวลกัลตะ เซนได จากญี่ปุ่น แพ้ เจียงซู เซนตี จากจีน ไป 1-2 ทำให้ เอฟซี โซล เป็นแชมป์กลุ่ม มี 11 คะแนน ส่วน บุรีรัมย์ มี 7 คะแนนเท่ากับ เจียงซู เซนตี แต่ประตูได้เสีย บุรีรัมย์ ดีกว่า และ เวลกัลตะ เซนได จบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม หลังจบการแข่งขัน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับช็อคแฟนปราสาทสายฟ้าด้วยการประกาศแยกทางกับโค้ชแต๊ก อรรถพล บุษปาคม กุนซือของทีมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยโดยให้มีผลทันที พร้อมระบุสาเหตุว่า โค้ชแต๊กไม่ทำตามข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้ และนายเนวินยังให้คำสัญญากับแฟนบอลด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่ให้ส่งผลต่อทีมในอนาคตอย่างแน่นอน

สำหรับโค้ชแต๊ก คุมทีมบุรีรัมย์ครั้งแรกเมื่อปี 2553 และพาทีมคว้าแชมป์หลายรายการ ทั้งแชมป์ไทยลีก 1 สมัย ไทยคมเอฟเอคัพ 2 สมัย ลีกคัพ 2 สมัย, แชมป์โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 1 สมัย, และฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. อีก 1 สมัย และล่าสุดกับการพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนจะโดนประกาศแยกทางแบบสายฟ้าแลบชนิดที่แฟนบอลปราสาทสายฟ้ายังคาดไม่ถึง

ส่วนอีกคู่ ที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม ทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ ไทย พรีเมียร์ ลีก พบกับ อูราวะ เรด ไดมอนด์ จากญี่ปุ่น โดย เมืองทอง ตกรอบไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงเล่นให้ครบตามโปรแกรม เท่านั้น ส่วน อูราวะ ต้องการ 3 คะแนน และลุ้นให้ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ แชมป์กลุ่ม ชนะ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ ให้ได้ แต่เกมนี้ ผลปรากฏว่า เป็นทีม อูราวะ ที่เป็นฝ่ายชนะไป 1-0 ได้ประตูชัยจากผลงานของ ไดซูเกะ นาสึ นาทีที่ 47

ส่วนผลอีกคู่ กว่างโจว เสมอกับ ชุนบุค ไป 0-0 ทำให้ กว่างโจว แชมป์กลุ่ม มี 11 คะแนน เข้ารอบร่วมกับ ชุนบุค ที่มี 10 คะแนน ส่วน อูราวะ และ เมืองทอง กอดคอกันตกรอบ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง