ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เดินหน้ากฎหมาย "เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์" เข้าสภา ก.ค.นี้

เศรษฐกิจ
20:00
256
เดินหน้ากฎหมาย "เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์" เข้าสภา ก.ค.นี้
อ่านให้ฟัง
11:07อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รัฐบาลเดินหน้า เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ "ศึกษิษฏ์" ชี้เป็นโอกาสประเทศที่ไม่ควรเสีย เกิดจ้างงานจำนวนมาก ดึงเม็ดเงินจากท่องเที่ยวมหาศาลทั้งปี ย้ำชัดไม่ใช่พนันออนไลน์-กาสิโน มีกฎหมายคุมเข้มงวด

วันนี้ (4 มิ.ย.2568) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงภาพรวมโครงการ ‘Thailand Entertainment Complex : มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก เพื่อคนไทยทุกคน’ โดยชี้ให้เห็นถึงโอกาสของการท่องเที่ยวไทยและอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลต้องทำเอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงแบบครบวงจร ที่เตรียมนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกช่วงเดือน ก.ค.นี้ จะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ หลังจากนั้นจะมีการตั้งกรรมาธิการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ แล้วเสร็จทันในรัฐบาลชุดนี้ ภายใน 2 ปี

ในทางกลับกันหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก โหวตคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ แต่ถือเป็นการเสียโอกาสของประเทศ หลังจากประเมินว่าไทยมีศักยภาพสามารถผลักดัน โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐอเมริกา และมาเก๊า

พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะไม่เปิดประชาพิจารณ์ใดๆ เพิ่มเติม แม้ยังมีผู้คัดค้านโครงการเพราะผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นไปแล้ว และในร่างกฎหมายกำหนดให้รับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่เป้าหมายโครงการ สาเหตุที่รัฐบาลจำเป็นต้องคงให้มีกาสิโนไว้ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนลงทุนพัฒนาโครงการอื่นๆ ตามแผน ทั้งสถานบริการสุขภาพ สนามกีฬาขนาดใหญ่ สถานที่จัดคอนเสิร์ตระดับโลก และพื้นที่จำหน่ายสินค้าโอท็อป

สำหรับกระบวนการคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายและการออกใบอนุญาต นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมกับ ตั้งสำนักงาน และผู้อำนวยการสำนักงาน คล้ายสำนักงานอีอีซี เป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้ของสถานที่ตั้งก่อนออกประกาศเชิญชวนประมูลใบอนุญาต โดยผู้สนใจประมูล ต้องเสนอร่างโครงการ พร้อมกับแผนการพัฒนาโครงการ ตามบัญชีแนบท้าย ขนาดเงินลงทุน การจ้างงาน ตลอดจนออกแบบระบบป้องกันการฟอกเงินและห้ามโฆษณาเชิญชวนกาสิโน

ทั้งนี้ คาดว่าโครงการจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากเฉลี่ย 6,000 บาท เป็น 22,000 บาทต่อคนต่อทริป ไม่รวมเม็ดเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท ต่อ 1 ใบอนุญาต

"ศึกษิษฏ์" ชี้เป็นโอกาสประเทศที่ไม่ควรเสีย

นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว รัฐบาลเดินหน้าการท่องเที่ยวด้วยการวางเป้าหมายใหม่ๆ กำหนดยุทธศาสตร์ใหญ่ที่จะทำการท่องเที่ยวแบบไม่รอฤดูกาล และ เน้นการท่องเที่ยวที่ สร้างขึ้นใหม่ไม่ว่าจะเป็นแผนงานการดึงอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาในประเทศ เช่น F1 วิจิตรเจ้าพระยา มหาสงกรานต์ Splash FIVB Volleyball Women's Nations League, การท่องเที่ยวที่เน้นการสร้างคุณค่า เช่น การทำ THACCA,

5 Must Do in Thailand, Health & Wellness Tourism และ Man-Made Destination เช่น กระเช้าภูกระดึง, Cruise Terminal และ Enterainment Complex โดย เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลากหลายในหมวดการยกระดับการท่องเที่ยวเท่านั้น เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่แค่โซนบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประเทศตลอดปี ทำให้ประเทศไทย ไม่มี Low Season อีกต่อไป

เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็น Man-Made Destination ที่จะรวมไว้ตั้งแต่สวนสนุก/สวนน้ำ, พิพิธภัณฑ์, สเตเดียมอเนกประสงค์ในร่ม, พื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อนของประชาชน, พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP, โรงแรม 5 ดาว, ศูนย์นวัตกรรมสำหรับสตาร์ทอัพและธุรกิจแห่งอนาคต, ห้างสรรพสินค้าครบวงจรและโรงภาพยนตร์, คอนเสิร์ตฮอลล์ระดับเวิลด์คลาส

ศูนย์ประชุมและพื้นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่, ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์, ท่าจอดเรือยอชท์และท่าเรือสำราญ, กาสิโน (ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด) ฯลฯ ทั้งหมดนี้ ผู้ประกอบการไทย SME ไทย จะได้รับประโยชน์ตรงนี้อย่างแน่นอน และมองว่านี่คือโอกาสที่ประเทศไทยไม่ควรจะพลาดไป

ประเทศไทยไม่ใช่ที่แรก เพราะที่ผ่านมา เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถูกพูดถึงและเป็นโครงการที่หลายประเทศกำลังมุ่งไป โดยคาดการณ์โอกาสในตลาดเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ สูงถึง 54 ล้านล้านบาท/ปี ขอยกตัวอย่างข้อมูลรายได้ต่อปีจากสถานบันเทิงครบวงจรปี 2022 ของประเทศเวียดนาม คือ 1.8 แสนล้านบาท/ปี, เกาหลีใต้ 3.2 แสนล้านบาท/ปี, สิงคโปร์ 4.3 แสนล้านบาท/ปี, ญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดในปี 2030 เป็นต้น

ข้อมูลตัวเลขจากประเทศเพื่อนบ้านแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ส่วนโมเดลการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทย คือ โมเดลเหมือนสิงคโปร์ UAE และที่ญี่ปุ่นกำลังทำ นั่นคือจํากัดจํานวน เช่น ให้มีจํานวนน้อย แล้วบังคับให้การลงทุนเป็นการลงทุนขนาด mega size เท่านั้น (XXL 100,000 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น) ซึ่งโมเดลนี้จะมาพร้อมกับการลงทุนขนาดใหญ่ที่เข้ามา สิ่งที่เราจะได้คือการยกระดับตัวอุตสาหกรรมขึ้นมาทั้งหมด และมาพร้อมกับมาตรฐานการกํากับดูแลระดับโลกด้วย เพราะเราต้องการดึงมาตรฐานระดับโลก ดึง global best practice เข้ามา ประกอบกับ local governance ของเรา เพื่อสร้างมาตรการในการป้องกัน มาตรฐานในการกํากับดูแลที่เข้มแข็งที่สุด

ทั้งนี้ จุดที่เราศึกษาอยู่ใกล้กับแหล่งคมนาคมขนส่ง และที่สําคัญคืออยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเราตั้งใจว่า เมื่อมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แล้ว นอกจากเราจะดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามา เราต้องการให้ผู้คนมาเที่ยวที่นี่แล้วก็ไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวข้างๆ ด้วย โดยกระจายรายได้ออกไปให้ทุกภาคส่วนกว้างขวางที่สุด

นายศึกษิษฏ์ ย้ำว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่การพนันออนไลน์ เป็นคนละเรื่อง แยกกันอย่างชัดเจน ใน พ.ร.บ. ระบุไว้ชัดเจนว่า พนันออนไลน์ไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นในนี้ และรัฐบาลก็เดินหน้าปราบปราม และกําจัดพนันออนไลน์ด้วย ซึ่งเราปิดเว็บไซต์ไปกว่า 90,000 เว็บ ปิดบัญชีม้าไปประมาณกว่า 700,000 บัญชี วันนี้เราต้องการการลงทุนที่เรียกว่า on land คือลงทุนเป็น land-based Entertainment Complex ที่มีการลงทุนเกิดขึ้นจริง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานจริง มีเงินเข้ามาในประเทศจริง มีการจ้างงานจ้างอาชีพจริงๆ

ส่วนเรื่องของ "กาสิโน" ขอย้ำว่า "ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้" และกาสิโนจะอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย และมาตรฐานการดูแลระดับโลก ตั้งแต่มาตรการดูแลผู้เล่นในกาสิโน, การห้ามเข้า, มีการลงทะเบียนและติดตามผู้เล่น รวมถึงมีมาตรการดูแลเพื่อสังคม เช่น การสนับสนุนทุนการศึกษา, การทำ CSR เพื่อสังคม และการป้องกันเยียวยาด้วย

ขอยืนยันว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินภาษีจากประชาชนเพราะเป็นการลงทุนโดยเอกชน แต่สิ่งที่จะได้คือเกิดรายได้ตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างเกิดขึ้นในไทยแน่นอนสินค้า โต๊ะ ตู้ เตียง ต่างๆ ผ้าห่ม หมอน ต่างๆ ของเมืองไทยแน่นอน และการจ้างงานทุกอย่างเป็นคนไทย 100% ส่วนหลังเปิดให้บริการแล้วก็จะสามารถ ช่วย GDP ไปได้ ถึง 0.2-0.8% ตามการคาดการณ์ ซึ่งมองว่าสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ จะสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยว 1-2 แสนล้านบาท จากกิจกรรมที่ที่พูดไปข้างต้น คือ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สวน สวนสนุก มิวเซียม เรือยอร์ช สิ่งเหล่านี้สามารถยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเราได้ชัดเจน จะเกิดการจ้างงาน 9000-15,000 อัตรา เพราะสิงคโปร์ แค่มารีน่าเบย์แซนด์เจ้าเดียว ก็เกิดการจ้างงานกว่า 12,000 เข้าไปแล้ว

ทั้งยังเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประมาณการว่า 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่อง Low Season ขึ้น 13% ทำให้การท่องเที่ยวสม่ำเสมอทั้งปี ไทม์ไลน์การลงทุนยังอีกยาวไกล ปัจจุบันเราอยู่ที่จุดเริ่มต้น คือการทำกฎหมายเท่านั้น เฉพาะแผนการทำงานคาดว่าจะกินเวลาราว 3 ปี และทุกนาทีที่เสียไป เท่ากับ "โอกาส" ที่ประเทศไทยเสียไปเช่นกัน

อ่านข่าว : คลัง สรุป 7 ผู้สมัคร “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” คาดรู้ผล 2 ก.ค.68

"ภูมิธรรม" บินด่วน "ช่องบก" ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา

อี แจ-มยอง สาบานตน เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้