แพทย์ชนบท แฉไอ้โม่งสั่งอภ. ส่งเงินค่าการตลาด 75 ล้านตรงเข้าสธ. แทนให้ รพ.ตรง

สังคม
6 พ.ค. 56
06:35
40
Logo Thai PBS
แพทย์ชนบท แฉไอ้โม่งสั่งอภ. ส่งเงินค่าการตลาด 75 ล้านตรงเข้าสธ. แทนให้ รพ.ตรง

นพ.วิทิต หมอชนบทเรียกร้องให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องวัดน้ำตาลที่จะทำให้รัฐสูญ 115 ล้านบาททันที กลุ่มหมอชี้ เปลี่ยนเส้นทางเงินหนุนกิจการภาครัฐของอภ. ที่ส่งให้ รพ.ในพื้นที่ กลับทิศเข้ากระทรวงสาธารณสุขแทน

 ตามที่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิเสธข่าวมีการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด ราคารวม 147 ล้านบาท  และเรียกร้องให้แพทย์ชนบทโชว์หลักฐานทุจริต  ต่อกรณีนี้  นพ.วชิระ  บถพิบูลย์  อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท  เปิดเผยว่ารู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่สองมาตรฐานของ รมว.สาธารณสุข เพราะมีเอกสารชัดเจนว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งงบสั่งซื้อสูงกว่าราคาที่องค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นวิสาหกิจในกำกับของรัฐเสนอขายให้กับโรงพยาบาลทั้งประเทศถึงเกือบห้าเท่าตัว จะทำให้รัฐต้องสูญเงินกว่า 115 ล้านบาท และต้องซื้อแถบตรวจน้ำตาลสูงกว่าตลาดสูลเงินกว่าปีละ 100 ล้านบาททุกปี

 
นพ.วชิระ กล่าวว่า จากเอกสารที่ออกสู่สาธารณะชี้ชัดว่ามีการเตรียมการทำให้รัฐสูญเงินทันที 115 ล้านบาท ส่วนหลักฐานมากกว่านั้น รัฐมนตรีสาธารณสุขควรตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงจากคนนอกที่สังคมยอมรับ  เหมือนในอดีตเคยสอบเอาผิดอดีตรมว.สาธารณสุข จากพรรคกิจสังคม กรณีทุจริตยาจนต้องติดคุก  หรือสอบกรณีงบไทยเข้มแข็ง ทำให้ รมว.สาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ ต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ  และสำหรับเรื่องนี้ถ้ามีการตั้งกรรมการสอบที่สังคมยอมรับ ทางชมรมแพทย์ชนบทก็พร้อมให้ข้อมูลทางลึกที่มีอยู่ 
 
อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ระบุอีกว่า ขณะนี้ชมรมได้รับข้อมูลว่ามีไอ้โม่งที่มีอำนาจมากกว่าประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม  ได้สั่งให้เปลี่ยนเส้นทางเดินของเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจำนวน 75 ล้านบาทที่องค์การเภสัชกรรม  เตรียมเบิกส่งให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ที่ได้ซื้อยาในโครงการ สปสช. ตามคำแนะนำของ สตง. แต่ไอ้โม่งสั่งให้ส่งเข้าส่วนกลางกระทรวงสาธารณสุขแทน  หรือข้อมูลกรณี มือขวาของผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงสาธารณสุข  พัวกันงบประมาณการวิจัยของ สวรส. ตอนแรกขอ 6 ล้านบาท ต่อมาจะขอเพิ่มอีก 6 ล้านบาท เพื่อทำเอกสารวิจัยปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเนื้อหาไม่มีอะไรใหม่ ส่วนใหญ่ซ้ำกับที่เคยทำกันแล้วและเสนอแล้วในกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่มีใครสนใจ นพ.วัชระ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง