เพลงป๊อปที่ให้บรรยากาศแบบพื้นบ้านด้วยเสียงกลองและขลุ่ยใน Only Teardrops ซิงเกิลเปิดตัวของ เอ็มเมลี เดอ ฟอเรส นักร้องสาววัย 20 ปีจากเดนมาร์ก เป็นบทเพลงที่ชนะใจชาวยุโรปกว่า 100 ล้านคนที่ร่วมกันโหวตให้เธอเป็นผู้ชนะในรายการประกวดร้องเพลง Eurovision Song Contest ทำให้ตัวแทนจากเดนมาร์กคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 3 ในการแข่งขันร้องเพลงที่จัดมาเป็นครั้งที่ 58
เอ็มเมลี เดอ ฟอเรส เริ่มต้นเส้นทางนักร้องตั้งแต่อายุได้ 14 ปี ออกตระเวณไปแสดงตามเทศกาลดนตรีและงานด้านวัฒนธรรมต่างๆ เมื่อ 6 ปีแล้ว จนเซ็นสัญญาบันทึกแผ่นเสียงเมื่อช่วงต้นปี2556 โดยมีนักร้องสาวชากีรา เป็นต้นแบบ และได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศเดนมาร์กร่วมประกวด Eurovision Song Contest และคว้าชัยชนะ
จุดเด่นของงานในปีนี้อยู่ที่การแสดงที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การแสดงของผู้ชนะอันดับ 2 จากอาเซอร์ไบจัน ที่สร้างภาพมายาด้วยการนำนักเต้นมาอยู่ในกล่องใสเพื่อเลียนแบบท่าทางนักร้องเพื่อให้ดูเป็นเหมือนเป็นกระจกของกันและกัน ส่วนอันดับ 3 จากยูเครน ให้ อิกอร์ วอพคอวินสกี้ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นชายที่สูงที่สุดในสหรัฐฯ อุ้มนักร้องสาวผู้ประกวดขึ้นเวที แต่การแสดงที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เป็นของตัวแทนจากฟินแลนด์ เมื่อนักร้องสาว คริสต้า ซิกฟริด จบการแสดงเพลง Marry Me ด้วยการจูบกับผู้หญิงด้วยกัน เพื่อประท้วงฟินแลนด์ที่เป็นชาติเดียวในสแกนดิเนเวียที่ยังไม่อนุญาตให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ตามกฎหมาย
Eurovision Song Contest ปีนี้ถือเป็นความล้มเหลวอีกครั้งของตัวแทนจากสหราชอาณาจักร ที่แม้จะเป็น 1 ใน 5 ชาติที่ได้สิทธิ์เข้าชิงโดยอัตโนมัติ แต่ 58 ปีที่ผ่านมาเคยคว้าชัยเพียง 5 ครั้ง โดยไม่สามารถคว้าชัยได้ตลอด 16 ปีหลัง บ่อยครั้งที่การใช้ศิลปินดัง ไม่รับประกันชัยชนะ ทั้ง โอลิเวียร์ นิวตัน จอห์น วง The Shadows และ คริฟ ริชาร์ด ไม่ต่างจาก 3 ปีที่ล่าสุดที่ได้ศิลปินดังรวมประกวดทั้ง วง Blue ตำนานนักร้อง เอนเกลเบิร์ต ฮัมเปอร์ดิงค์ หรือปีนี้ที่ได้นักร้องดังยุค 80 อย่าง บอนนี่ เทย์เลอร์ ร่วมประกวด แต่ก็ทำได้เพียงอันดับที่ 19 เท่านั้น