เปิดวิธีคำนวณ
การประชุมคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. เมื่อวานนี้ (14มิ.ย.56) ท้ายสุดก็ยังไม่มีข้อสรุปตัวเลขการดำเนินการในโครงการรับจำนำข้าว ว่าขาดทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ โดยนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายให้รวบรวมตัวเลขที่ถูกต้อง จาก 2 แหล่งสำคัญคือกระทรวงพาณิชย์ และคณะอนุกรรมการปิดบัญชีตัวเลขรับจำนำ และเป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเลขแตกต่างกันมา
หลังจากรวบรวมข้อมูลหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปเบื้องต้น ว่า ตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ และคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวนั้น แม้ทั้ง 2 แหล่งจาก ใช้ฐานปริมาณข้าว และวงเงินรับจำนำไม่ต่างกัน คือ ปริมาณข้าวโครงการรับจำนำฤดูกาลผลิตปี 54/55 อยู่ที่ประมาณ 22 ล้านตันข้าวเปลือก และใช้วงเงินรับจำนำ 336,000 ล้านบาท แต่มีวิธีการคำนวน และปิดบัญชีที่ต่างกัน
วิธีการคำนวณคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ อ้างอิงราคาข้าวในตลาดที่ราคาต่ำสุด ณ วันปิดบัญชี ส่วน กระทรวงพาณิชย์ คิดจากราคาต้นทุนรับจำนำ ทำให้ตัวเลขรายรับและค่าใช้จ่ายต่างกันค่อนข้างมาก เช่น เมื่่อรวมตัวเลขโครงการรับจำนำ 2 รอบ ทั้งนาปี 54/55 และ นาปรับปี 55 จะเห็นว่าตัวเลขของ คณะอนุกรรมการปิดบัญชี ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายสูงกว่ากระทรวงพาณิชย์มาก
คณะอนุกรรมการคำนวนตัวเลขขาดทุนสูงกว่า 136,000 ล้านบาท หรือ กว่า 4 เท่าของตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์คำณวน ซึ่งตัวเลขของคณะอนุกรรมการฯ ที่คำนวณนั้น ใกล้เคียงกับหลายฝ่ายที่เคยประเมินไว้
โดยใช้สมมุติฐานคล้ายคลึงกัน คือคำนวณจากปริมาณข้าวที่อยู่ในสต็อก ที่รับจำนำมาในราคาที่รัฐบาลตั้งไว้ กับการขายข้าวในราคาตลาด ซึ่งจะได้ตัวเลขส่วนต่างคร่าวๆ และบวกรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าบริหารจัดการต่างๆ
แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปตัวเลขที่ชัดเจน แต่ก็เห็นคร่าวๆ ว่า โครงการรับจำนำข้าว หนีไม่พ้นตัวเลขขาดทุนที่สูง ซึ่งสถาบันจัดอันดับมูดี้ส อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เคยแสดงความเป็นห่วงว่า หากรัฐบาลยังดำเนินโครงการ ก็อาจจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ ขณะเดียวกัน วันจันทร์นี้ (17มิ.ย.56) คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช.จะสรุปตัวเลขอีกครั้ง ว่าจะใช้ตัวเลขใดอ้างอิงเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน จากนำจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีรับทราบอีกครั้ง