ปภ.สงขลา ซ้อมแผนรับมือ
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด จ.ระยอง เรียกให้หน่วยงานทีเกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขภาพลักษณ์ของเกาะเสม็ดจากเหตุคราบน้ำมันรั่วไหลลงทะเล ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา สั่งเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ตรวจเช็คความพร้อมของเจ้าหน้าที่ชุด ERT หรือชุดกู้ภัยพิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน 30 นาย ที่มีความเชี่ยวชาญการกู้ภัยในเหตุการณ์น้ำมัน หรือสารเคมีรั่วไหลหรือเกิดอุบัติภัยทางทะเล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดนี้แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ชุดละ 10 คน เฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มีความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่และเครื่องมือ กรณีอาจมีสารเคมีหรือน้ำมันดิบรั่วไหลโดยเฉพาะในทะเลอ่าวไทย ที่มีแท่นขุดเจาะน้ำมันใกล้ชายฝั่งหลายแห่ง แม้ที่ผ่านมายังไม่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลเหมือนที่เกิดอยู่ในจังหวัดระยอง ก็ตาม
ส่วนที่จ.ระยอง คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนจังหวัดระยอง ยังคงแสดงความห่วงใยจากเหตุคราบน้ำมัน บริเวณเกาะเสม็ด โดยเรียกร้องให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าวโดยเร็ว ป้องกันการกำจัดคราบน้ำมัน ส่วนที่เหลือไม่ให้มีผลกระทบชายหาดอื่นๆ ตลอดจนเร่งกระจายข้อมูลที่ถูกต้อง โดยตั้งศูนย์กระจายข่าวที่ศาลากลางจังหวัดระยอง
นอกจากนี้ต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบในวงจำกัดเท่านั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าจุดท่องเที่ยวอื่นๆยังคงให้บริการ และท่องเที่ยวพักผ่อนได้อย่างปกติ สุดท้ายคือให้มีการตรวจสอบคุณภาพอาหารทะเลในบริเวณเกาะเสม็ด ว่าปลอดภัยหรือไม่ ด้วยการเก็บตัวอย่างอาหารทะเลมาวิเคราะห์ทางเคมี
ล่าสุดนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะได้เดินทางไปดูสภาพของอ่าวพร้าว และพบกับผู้ประกอบการท่องบเที่ยวบนเกาะเสม็ด ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่พอใจ การทำงานที่ล่าช้า ไม่แจ้งประเด็นข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก รวมทั้งข่าวที่ออกไปทำให้นักท่องเที่ยว ยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวเกือบทั้งหมด ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ ปตท.ติดต่อประสานงานกับผู้ประกอบการ เนื่องจากตั้งเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ ปตท.มาติดต่อแต่อย่างใด