ชาวบ้าน อ.กบินทร์บุรี กว่า 200 คนปิดถนนเรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม

ภูมิภาค
27 ก.ย. 56
01:32
54
Logo Thai PBS
ชาวบ้าน อ.กบินทร์บุรี กว่า 200 คนปิดถนนเรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม

สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคกลาง ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำที่ระบายจากเขื่อน โดยเฉพาะที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านกว่า 200 คน ปิดถนนหน้าเทศบาลกบินทร์บุรี เพื่อเรียกร้องให้มีการเปิดประตูระบายน้ำ หลังระดับน้ำไม่ลดลง

ชาวบ้านที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีได้ปิดถนนประท้วงให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 1 เมตร เพราะขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ยังไม่ลดลง แม้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 50 เซนติเมตร แต่ชาวบ้านก็ยังไม่พอใจ และยืนยันว่าในวันที่ 27 กันยายน จะปิดถนนประท้วงอีกครั้งจนกว่าระดับน้ำจะลดลง

ส่วนชาวบ้าน 4 ตำบล คือ ต.ทัพทัน, ต.โคกหม้อ, ต.หนองหญ้าปล้อง และ ต.ทุ่งนาไทย จ.อุทัยธานี เหนือเขื่อนวังร่มเกล้า ชุมนุมเรียกร้องให้ชลประทานระบายน้ำลงท้ายเขื่อนมากขึ้น หลังบ้าน และนาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายนับหมื่นไร่ เพราะเกิดความแตกต่างระหว่างพื้นที่หลังประตูน้ำ และท้ายประตูน้ำที่ฝั่งหนึ่งถูกน้ำท่วมสูง แต่อีกฝั่งไม่ถูกน้ำท่วม

หลังการเรียกร้องชลประทานยอมยกประตูระบายน้ำ เฉพาะบานกลางสูงขึ้นอีก 10 เซนติเมตร และติดตามผลกระทบต่อไป

ส่วนระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ชาว ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ต้องสร้างเพิงพักชั่วคราว และขนย้ายทรัพย์สินไปไว้บนถนนริมคลองชลประทาน เพราะไม่มั่นใจว่า คันดินจะสามารถรับแรงดันน้ำได้ เช่นเดียวกับอีกหลายตำบล ริมแม่น้ำที่ถูกน้ำท่วมสูง 40-50 เซ็นติเมตร

เช่นเดียวกับสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ที่ยังคงไหลเชี่ยว และเพิ่มระดับความสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เร่งระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อเตรียมรองรับน้ำเหนือ ที่คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักอีกในช่วง 1-2 วันนี้

ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะ อ.บางบาล ระดับน้ำยังคงเพิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนได้พากันหาซื้อเรือ เพื่อไว้รับมือกับปริมาณน้ำ หลังได้รับคำเตือนว่าฝนจะตกหนักอีกในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ขณะที่เมื่อวันที่ 269 กันยายนที่ผ่านมา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้ลงพื้นที่ดูสถานการณ์ทั้ง 2 จังหวัด

ตัวแทนชาวนากว่า 200 คน จาก 10 ตำบลของ อ.องครักษณ์ จ.นครนายก เรียกร้องให้สำนักชลประทานที่ 11 คลอง 13 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หยุดเดินเครื่องสูบน้ำในคลองหกวา อ.ลำลูกกา ที่ระบายมายัง จ.นครนายกเป็นการชั่วคราว เนื่องจากทำให้น้ำเข้าท่วมนาข้าว และพืชผลการเกษตรใน อ.องครักษ์

ขณะที่ จ.นครสวรรค์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ หมู่ที่ 1 ตำบลโกรกพระ อำเภอโกรกพระ สูง 20-40 เซ็นติเมตร และเริ่มขยายวงกว้าง ทำให้ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนให้ระวัง เนื่องจากยังมีฝนตก และระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก

ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.ชัยภูมิ มีฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำในลำน้ำชีเพิ่มขึ้น และพนังกั้นน้ำอำเภอบ้านเขว้าแตก น้ำไหลท่วมบ้านของชาวบ้านหนองโสมงกว่า 100 หลัง

น้ำจากลำน้ำชี ยังเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านกว่า 500 หลัง สูงเกือบ 1 เมตร โรงเรียนถูกสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนดแล้ว 4 แห่ง ใน 9 อำเภอ ส่วนน้ำจากลำปะทาว ยังไหลเข้าตัวเมืองชัยภูมิอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทศบาลเมืองชัยภูมิ ต้องเร่งสูบน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง

บ้านที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำสายหลัก ทั้งใน จ.ยโสธร, จ.อุบลราชธานี, จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นครราชสีมา ก็ถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม โดยเฉพาะน้ำในลำน้ำบริบูรณ์ ที่ไหลผ่านเลี่ยงตัวเมืองนครราชสีมา เพิ่มขึ้นจนเกือบจะท่วมผิวการจราจรถนนสายบายพาส

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนว่า วันที่ 27-28 นี้ จะเกิดฝนตกหนักบริเวณ จ.นครสวรรค์, จ.อุทัยธานี, จ.ลพบุรี, จ.สระบุรี, จ.ปราจีนบุรี, จ.นครนายก, จ.จันทบุรี และ จ.ตราด จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง