อิทธิพลพายุ 
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ก.ย.) ส่งผลให้น้ำในคลองชลประทานหมู่ 1 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ไหลทะลักเข้าท่วมฟาร์มนกกระทา ของนายภาคภูมิ ดีพร้อม อายุ 34 ปีอย่างรวดเร็ว ทำให้นกกระทาที่มีอายุเพียง 15 วัน จมน้ำตายกว่า 20,000 ตัว มูลความค่าเสียหายหลายแสนบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 20,000 ตัว สามารถยกขึ้นที่สูงไว้ได้ทัน
เช่นเดียวกับ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เตือนประชาชน ที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ให้เก็บของขึ้นที่สูง หลังฝนที่ตกหนัก และการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนพระราม 6 เพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้นายอำเภอที่ถูกน้ำท่วมทั้ง อ.บางบาล, อ.เสนา,อ.ผักไห่ และ อ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบสถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนประชาชนอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านที่อยู่ริมลำน้ำมูลน้อย ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ต้องเร่งนำกระสอบทราย และท่อน้ำซีเมนต์บรรจุทราย วางปิดกั้นหน้าบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้าน หลังระดับน้ำเพิ่มขึ้นวันละกว่า 30 ซม. ล่าสุดทางจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 23 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ
เช่นเดียวกับ จ.ยโสธร ฝนที่ตกลงมา ได้สมทบกับน้ำเหนือที่ไหลลงมาหนุนสูง ทำให้น้ำในแม่น้ำชี ที่ไหลผ่าน จ.ยโสธร เพิ่มสูงขึ้นจนใกล้ระดับวิกฤต ทำให้เทศบาลเมืองยโสธร ต้องนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ไปติดตั้งในพื้นที่รับน้ำ และติดกับริมแม่น้ำชี เพื่อเตรียมรับมือน้ำท่วมจากอิทธิพลพายุหวู่ติ๊บ ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (30 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัยทั้งใน จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี
ส่วนภาคเหนือ ที่ จ.นครสวรรค์ แม่น้ำยมล้นตะลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่บ้านลาด ต.บางเคียน อ.ชุมแสง กว่า 20 หลัง สูงเกือบ 50 ซม. ชาวบ้านต้องต่อสะพานไม้ ใช้เข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่ระดับน้ำ ยังไม่มีทีท่าจะลดระดับลง
ไม่แตกต่างกับสถานการณ์ใน ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ที่ทั้งชาวบ้าน และพระสงฆ์ยังคงสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก เนื่องจากน้ำท่วมยังคงมีระดับสูง โดยเฉพาะที่ จ.ลำปาง ระดับน้ำในแม่น้ำวัง ที่เพิ่มสูงขึ้นได้กัดเซาะถนน เชื่อมระหว่างหมู่บ้านหนองโสน และบ้านหนองซาง ต.เถินบุรี อ.เถิน ทรุดตัวกว้างกว่า 10 เมตร การสัญจรต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น