น้ำท่วม จ.นครราชสีมา เริ่มวิกฤติ

พื้นที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ซึ่งรับน้ำจากลำปลายมาศ และลำน้ำมูลมีน้ำเอ่อล้นสะพานข้ามแม่น้ำมูลสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ ขณะที่โรงเรียนพิกุลทองในเขตเทศบาล ต.ชุมพวง ต้องปิดเรียนไม่มีกำหนด หลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยภาพรวมทั้งอำเภอ พบว่ามีชุมชนได้รับผลกระทบแล้ว 48 หมู่บ้าน จาก 8 ตำบล พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 16,000 ไร่ 

 

ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ น้ำชีที่ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.กระสัง มานานกว่า 2 สัปดาห์ ระดับน้ำยังทรงตัวอยู่ที่ 2 เมตร ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน โดยเฉพาะการประกอบพิธีฌาปนกิจ ญาติต้องใช้เรือเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีที่วัดใกล้เคียงแทน 

 

ขณะที่ จ.พิษณุโลก ทหาร และชาวบ้าน เข้าไปสำรวจแนวกั้นน้ำในพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม หลังน้ำกัดเซาะคันดินแตก ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรเป็นบริเวณกว้าง พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ระบุว่า หลังขึ้นบินสำรวจพบว่ายังมีกลุ่มฝนในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก จึงได้สั่งกับชับให้ตำรวจช่วยเหลือประชาชน และระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก  

 

ส่วนชาวนากว่า  200 คน ใน ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ที่ปิดทางเข้าออกสนามบินสุโขทัย เพราะไม่พอใจที่คันดินของสนามบิน ปิดกั้นทางน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมนาข้าวกว่า 7,000 ไร่ ยอมสลายการชุมนุมแล้ว หลังผู้บริหารสนามบินรับปากจะเร่งเปิดทางน้ำ และทำระบบระบายน้ำแบบถาวร โดยให้ตัวแทนชาวบ้านเข้าไปตรวจสอบได้ตลอดเวลา

 

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุทัยธานี ล่าสุด คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเกือบทุกจุด ทำให้ชลประทานจังหวัดลดการระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนวังร่มเกล้า เพื่อรักษาระดับเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ส่วนฝนที่ยังตกลงมาในเขตป่าห้วยขาแข้ง ทำให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำสำคัญ 2 แห่งอย่างต่อเนื่อง คืออ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อ.ห้วยคต และอ่างเก็บน้ำทับเสลา อ.ลานสัก คาดว่าหมดฤดูฝนนี้ จะมีปริมาณน้ำพอใช้ เพื่อการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง